หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

จัดระเบียบรถตู้ราชบุรี ทำได้..แต่ไม่ควรเดือดร้อนผู้ใช้บริการ

เมื่อวันที่ 7 พ.ค.2560 ผมไปส่งลูกสาวเพื่อขึ้นรถตู้โดยสารเดินทางไปกรุงเทพฯ ซึ่งเมื่อก่อนสามารถเลือกขึ้นที่ท่าจอดบริเวณในเขตเมืองราชบุรีได้เลย มีท่าให้เลือกหลากหลายตามความสะดวก แต่วันนี้ นโยบายการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะใหม่ของ จ.ราชบุรี รถตู้ทุกคันต้องไปจอดที่สถานีขนส่งผู้โดยสารราชบุรีแห่งใหม่ ซึ่งเป็นแห่งที่ 2 เท่านั้น ซึ่งอยู่บริเวณตรงข้ามทางเข้าวัดห้วยหมู ต.ห้วยไผ่ อ.เมือง จ.ราชบุรี ห่างจากตัวเมืองประมาณ 5 กม. และห้ามรถตู้วิ่งเข้ามารับ-ส่ง ผู้โดยสารในเขตเมืองราชบุรี

ที่่มาของภาพ : http://news.rbvariety.com/social-news/6021.html

คำถามในใจ
การจัดระเบียบรถตู้โดยสารของ จ.ราชบุรี ครั้งนี้ ก็เพื่อสนองตอบต่อนโยบายจัดระเบียบรถตู้ของ คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) มีคำถามเกิดขึ้นในใจของผมมากมาย อาทิ

  1. นักเรียน นักศึกษา และบรรดาคนทำงาน  ที่ต้องอาศัยรถตู้ไปเช้า-เย็นกลับ มีบ้านอยู่แถว บางแพ บ้านโป่ง จะทำอย่างไร? ทุกคนต้องเสียค่ารถโดยสาร ค่าวินมอเตอร์ไซต์ เสียทั้งเวลา เพื่อเดินทางไปสถานีขนส่ง งั้นหรือ เหตุใดต้องเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไปให้ผู้ใช้บริการ
  2. วิธีการเดินทางจากในเมือง ไปยังสถานีขนส่ง เดินทางอย่างไร? รอความหวังแค่รถสองแถวสายเขาวัง เท่านั้นหรือ แล้วที่ว่ามีบริการทุก 5 นาที จริงหรือไม่?  แล้วเวลาที่ใช้เดินทางจากในเมืองไปถึงสถานีขนส่งอีก ขับแบบรับผู้โดยสารไปเรื่อยๆ จะใช้เวลาอีกเท่าไหร่ อย่างน้อยผู้โดยสารที่อยู่ในเมือง กว่าจะไปถึงสถานีขนส่งฯ คงต้องเสียเวลาอีกไม่ต่ำกว่า 30 นาทีหรืออาจถึง 1 ชั่วโมง ก่อนนั้นหลังจากเลิกเรียน เลิกงาน เคยถึงบ้านก่อน 6 โมงเย็น แต่เดี่ยวนี้กลายเป็น 1 ทุ่ม
  3. การที่ผู้ใช้บริการต้องเดินทางไปยังสถานีขนส่งฯ ในช่วงเวลาเช้ามืด และช่วงเย็นถึงพลบค่ำ นับว่ามีความเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินเพิ่มมากขึ้น หากเกิดเหตุร้ายขึ้นจากพวกมิจฉาชีพ  ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ
  4. หากอ้างว่าเพื่อไม่ให้รถติดในเมือง ในส่วนตัวแล้วผมเห็นว่า รถตู้ไม่ใช่ปัญหาที่ทำให้รถติด ปัญหารถติดก็จะมีเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วนเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจาก รถรับ-ส่งนักเรียน รถส่วนตัวที่ไม่มีวินัยจราจร เห็นแก่ตัว เบียดซ้ายแซงขวา จอดรถกีดขวางในที่ห้ามจอด และหาบเร่แผงลอยที่ตั้งร้านวางขายอยู่บนผิวจราจร ในเมืองที่เจริญแล้ว เขาจะจัดพื้นที่ให้รถขนส่งมวลชนสาธารณะมากกว่ารถยนต์ส่วนตัว แต่เมืองราชบุรีกลับตรงกันข้ามไล่รถบริการสาธารณะออกนอกเมืองเพื่ออำนวยความสะดวกให้รถส่วนตัว 
  5. การห้ามรถตู้วิ่งเข้ามารับ-ส่งผู้โดยสารในเมือง ถือเป็นการเพิ่มภาระให้แก่ผู้ใช้บริการ ขาไป : ก็ต้องเสียเงินเพิ่มเพื่อเดินทางไปยังสถานีขนส่งฯ ขากลับ : ก็ต้องเสียเงินเพิ่มเพื่อต่อรถเข้ามาในเมือง  นอกจากนั้นยังต้องเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ 
  6. หากมีแผนจะสร้างความเจริญที่สถานีขนส่ง จ.ราชบุรี แห่งใหม่ ก็ไม่ควรใช้วิธีนี้ แค่สถานีขนส่งจ.ราชบุรี แห่งแรก ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จเลย นี่ถ้ารถโดยสารไปแม่กลอง ดำเนินสะดวก วัดเพลง จอมบึง สวนผึ้ง ฯลฯ ต้องถูกจัดระเบียบไปจอดที่สถานีขนส่งแห่งใหม่ทั้งหมด แล้วจะทำกันอย่างไร นึกภาพไม่ออก     

จัดให้มีจุดรับ-ส่งผู้โดยสารในเมือง

การให้รถตู้โดยสารสาธารณะไปจอดที่สถานีขนส่งแห่งใหม่ ถือว่าเป็นการจัดระเบียบได้ แต่การที่จะให้ผู้ใช้บริการทุกคนต้องไปขึ้นรถตู้ที่สถานีขนส่งฯ ผมเห็นว่าไม่ถูกต้องนัก รวมถึงการห้ามรถตู้วิ่งเข้ามารับ-ส่งผู้โดยสารในเขตเมือง ยิ่งไม่ถูกต้องใหญ่ ขัดต่อหลักการบริการขนส่งมวลชน ก่อนวางแผนเช่นนี้ได้ต้องเตรียมวางแผนการเชื่อมต่อการเดินทางให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดเสียก่อน มีระบบขนส่งมวลชนสาธารณะที่ผู้ใช้บริการสามารถเลือกใช้ได้อย่างหลากหลาย




การที่จัดระเบียบให้รถตู้โดยสารทุกคันให้ไปจอดที่สถานีขนส่งฯ เพื่อไม่ให้มีสถานีรถตู้เกะกะอยู่ในเมืองหรือบนทางเท้า นับว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรอนุญาตให้รถตู้วิ่งเข้าเมืองได้ โดยจัดให้มีจุดรับ-ส่งในเมืองที่สำคัญ ทั้งขาไปขากลับ เช่น หน้าโรงเรียนวัดเขาวัง หน้าวิทยาลัยเทคนิคราชบุรี หน้าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ถนนเลียบทางรถไฟ หน้าค่ายภาณุรังษี ด้านข้างห้าง Big C เป็นต้น ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกของผู้ใช้บริการ ผู้โดยสารก็สามารถที่จะโทรศัพท์จองและนัดหมายล่วงหน้ากับรถตู้ได้

เมืองราชบุรี ไม่ใช่เมืองใหญ่โตอันใด รถราม้าช้างก็ไม่ได้เยอะแยะมากมายเหมือนในกรุงเทพฯ  การปัญหาในกรุงเทพฯ กับการแก้ปัญหาในต่างจังหวัดจึงมีความแตกต่างกัน  นโยบายต่างๆ ที่ได้รับมาจึงต้องมีปรับเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อม วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนในพื้นที่นั้นๆหวังว่าผู้บริหาร จ.ราชบุรี จะได้คำนึงถึงผลกระทบต่อความเดือดร้อนของผู้ที่ใช้บริการรถตู้โดยสาร และดำเนินการแก้ไขต่อไป

สนองนโยบายได้ แต่ต้องไม่เดือดร้อนผู้ใช้บริการ อย่าจัดระเบียบใดๆ ก็ตาม ซึ่งขัดต่อวิถีการดำเนินชีวิตของคน 

หากนโยบายที่กล่าวมานี้ คณะกรรมการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหารถตู้โดยสารสาธารณะ จ.ราชบุรี มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย เพราะผมก็เริ่มเห็นรถตู้โดยสารสาธารณะ วิ่งเข้ามาในเมืองบ้างแล้ว และบางท่าก็จอดอยู่แถวลานอเนกประสงค์ด้านข้าง Big C  

******************************
ชาติชาย คเชนชล :  9 พ.ค.2560 

วันพุธที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เหตุเกิดหน้าห้างแพลตตินั่ม : ผิดที่ใคร

เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2560 ประมาณเกือบห้าโมงเย็น หลังจากที่ผมและครอบครัว เสร็จสิ้นจากจับจ่ายใช้สอยในห้างแพลตตินั่ม ประตูน้ำ กรุงเทพมหานคร แล้ว ก็พากันออกมายืนเข้าคิวรอรถแท็กซี่บริเวณฟุตบาทหน้าห้างฯ ที่จัดไว้ให้ 

เชื่อไหมครับ  กว่าผมจะได้นั่งแท็กซี่ เล่นเอาเกือบหกโมงเย็น นับเวลารอแล้วเกือบ 1 ชั่วโมง

เลนที่จัดไว้สำหรับให้รถแท็กซี่เข้ามารับผู้โดยสาร

ไม่มีแท็กซี่เข้ามาในเลนที่จัดไว้ให้
เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะไม่มีแท็กซี่เข้ามารับผู้โดยสารในเลนที่จัดไว้ให้ นานๆ จะเข้ามาซักคัน มีแต่รถตุ๊กๆ แต่ก็ไม่ค่อยมีผู้โดยสารขึ้นเท่าใดนัก  ส่วนใหญ่ต้องการแท็กซี่มากกว่า 

มองแท็กซี่แต่ละคัน ก็ลุ้นว่าจะมีคันไหนเข้ามาบ้าง หลายคันก็ผ่านไป ทั้งๆ ที่ป้ายสถานะบอกว่า "ว่าง" 
ตอนนี้ผมอยู่ประมาณคิวที่ 8 มีชาวต่างชาติหลายคนต่างเข้าคิวรอด้วยกับผม ผมคิดในใจว่าหากเป็นเช่นนี้ คงมืดแน่ครับ  

เข้ามาแต่ไม่ไป
มีบางคันเข้ามาครับ แต่พอผู้โดยสารบอกสถานที่ที่จะไป ก็ออกไปเลย ไม่ยอมรับผู้โดยสาร 

ผมถามยามว่า "ทำไม? แท๊กซี่ไม่ค่อยเข้ามารับผู้โดยสาร และบางคันพอเข้ามาแล้วก็ไม่ยอมไป" 
ก็ได้รับคำตอบว่า "เขาไม่อยากรับครับ  บางคันกลัวไปส่งรถเปลี่ยนกะไม่ทัน เพราะรถมันติดมาก"

บางคนรอแท๊กซี่ไม่ไหว ตัดสินใจขึ้นรถตุ๊กๆ แทน

จอดอยู่ข้างนอกถามก่อนว่าผู้โดยสารจะไปที่ไหน
ตอนนี้ผมถึงคิวที่ 4 แล้ว มีแท๊กซี่อยู่คันหนึ่งจอดอยู่ข้างนอก (ไม่เข้าเลน) ปิดมิเตอร์ ไม่แสดงสถานะว่า "ว่าง" ตะโกนถามยามว่า ผู้โดยสารจะไปที่ไหนกันบ้าง  คิวที่ 1, 2 และ คิว 3 บอกสถานที่ที่จะไป แต่ปรากฏกว่าเเท๊กซี่คันนั้นไม่ยอมไปสักคน พอถึงผมคิว  4 ผมบอกว่าจะไปที่หอพักนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แท๊กซี่คันนั้น ก็บอกว่าไป ผมและครอบครัวจึงได้ขึ้นรถ

ยามก็รู้สึกกังวลแทนพวกเรา เพราะไม่มีรถแท็กซี่เข้ามาเสียที
ขอเงินหลังมิเตอร์ 20 บาท
พอผมขึ้นรถ แท๊กซี่คันนั้นบอกว่า ขอเงินหลังมิเตอร์ 20 บาท และขอไม่เปิดมิเตอร์ ผมจึงทักท้วงขอให้เปิดมิเตอร์  แท๊กซี่คันนั้นถึงเปิด โชว์เฟอร์เห็นผมท่าทางเอาจริง เลยแก้ตัวว่า ที่ไม่เปิดมิเตอร์ และแสดงสถานะว่า "ว่าง" ก็เพราะมีพวกหัวหมอ พอเรียกผมแล้ว ผมไม่ยอมไป ก็โทร.แจ้ง หาว่าผมปฏิเสธผู้โดยสาร ผมเลยซวยไปด้วย  ผมชอบรับฝรั่งครับ ไม่ต้องเปิดมิเตอร์ ได้เงินดี ทิปดี ไม่เรื่องมาก ...

งานนี้ สรุปได้ว่า ไม่มีใครผิดหรือผิดที่ใคร เพราะทุกคนต่างมีเหตุผลของตัวเองทั้งหมด
ตัวผมเองพอจะเข้าใจนิสัยคนไทยได้... 
แต่ชาวต่างชาติ นี่สิ เขาจะมองเราอย่างไร...
น่าคิดนะครับ

****************
จุฑาคเชน 3 พ.ค.2560