จังหวัดราชบุรี ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับกิจกรรมการท่องเที่ยวของ จ.ราชบุรี โครงการ “ชมไอหนาว หมอกขาว ป่าเขียว เที่ยวราชบุรี” เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2552 ที่ผ่านมา ณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร โดยมีนายกิตติ ทรัพย์วิสุทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายพิชัย นันทชัยพร นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองราชบุรี นายไกรสร กลับทวี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดราชบุรี และนายชัยสงค์ ชูฤทธิ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้าร่วมแถลงข่าวในโครงการด้วย
กิจกรรมหนึ่งในโครงการฟังเผินๆ แล้ว รู้สึกดูดีมาก คือ คอนเสิร์ตรับลมหนาวนอนดูดาวที่สวนผึ้ง ซึ่งกำหนดจัดในวันเสาร์ที่ 19 ธ.ค.2552 ณ ร.ร.สินแร่สยาม ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี จำหน่ายบัตรคนละ 1,000 บาท (แถม อาหาร 2 มื้อ และเต็นท์ 1 หลัง) จองบัตรได้ที่สำนักข่าวและร้านถ่ายเอกสารแห่งหนึ่ง งานนี้มีวงดนตรีเพื่อชีวิตคือ หงาคาราวาน และคีตาลชลี มาเล่นคอนเสิร์ตให้ฟัง ส่วนรายได้จากการจัดงานนี้ไม่ได้กล่าวถึงแต่อย่างใด
งานนี้ฟังชื่อแล้วหลายคนคงยากไป แต่ผู้เขียนกลับมาตรึกตรองดู ทำให้เกิดความรู้สึกแปลกแปลกที่ว่า ผู้บริหารของ จ.ราชบุรี เขาส่งเสริมการท่องเที่ยวกันเช่นนี้หรือ วิธีการอย่างนี้ ผู้เขียนคิดว่าไม่น่าเหมาะสม การที่เอาเสน่ห์ของสวนผึ้งมาเป็นสถานที่ปิดวิก และขายบัตรคอนเสิร์ต และก็ไม่ใช่เป็นคอนเสิร์ตเพื่อการกุศลแต่อย่างใด แต่ จ.ราชบุรี ดันขันอาสาหยิบยกไปแถลงข่าวให้ ก็เท่ากับว่า จ.ราชบุรี เป็นนายหน้าไปช่วยขายบัตรชมคอนเสิร์ตให้กลุ่มผู้จัด
หากงานนี้ จ.ราชบุรี บอกว่าจะส่งเสริมการท่องเที่ยวที่สวนผึ้งจริง คอนเสิร์ตรับลมหนาวนอนดูดาวที่สวนผึ้งในครั้งนี้ต้องเข้าชมฟรี หรือหากจำเป็นต้องขายบัตร ก็ต้องระบุให้ชัดเจนว่า เงินรายได้จะนำไปใช้ในการกุศลเรื่องใด เช่น เป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียนยากจนของ อ.สวนผึ้ง จัดซื้ออุปกรณ์การเรียนให้แก่โรงเรียนที่ขาดแคลนใน อ.สวนผึ้ง เป็นต้น อย่างนี้ได้ประโยชน์ทั้งการท่องเที่ยวและคนในพื้นที่
ท่านลองมองย้อนกลับไป ตอนที่เคยมีคนเอาวงดนตรีเพื่อชีวิตไปเล่นคอนเสิร์ตในเขาใหญ่ มาเทียบเคียงดูก็จะเห็นภาพได้ชัดเจน ...ชาวเขาใหญ่เขาไม่ได้ต้องการเลย....ธรรมชาติของเขาใหญ่บอบช้ำจากการเหยียบย่ำทำลายของคนที่มาดูคอนเสริ์ต และเมื่อคอนเสิร์ตจบแล้วยังคงเหลือกองซากเศษอาหาร และขยะมูลฝอย ทิ้งไว้อีกจำนวนมาก สรุปแล้วชาวเขาใหญ่ ได้หรือเสียอะไร มีแต่นักดนตรีและคนจัด ที่แบ่งสรรปันส่วนเงินกำไรกันถ้วนหน้า
กิจกรรมหนึ่งในโครงการฟังเผินๆ แล้ว รู้สึกดูดีมาก คือ คอนเสิร์ตรับลมหนาวนอนดูดาวที่สวนผึ้ง ซึ่งกำหนดจัดในวันเสาร์ที่ 19 ธ.ค.2552 ณ ร.ร.สินแร่สยาม ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี จำหน่ายบัตรคนละ 1,000 บาท (แถม อาหาร 2 มื้อ และเต็นท์ 1 หลัง) จองบัตรได้ที่สำนักข่าวและร้านถ่ายเอกสารแห่งหนึ่ง งานนี้มีวงดนตรีเพื่อชีวิตคือ หงาคาราวาน และคีตาลชลี มาเล่นคอนเสิร์ตให้ฟัง ส่วนรายได้จากการจัดงานนี้ไม่ได้กล่าวถึงแต่อย่างใด
งานนี้ฟังชื่อแล้วหลายคนคงยากไป แต่ผู้เขียนกลับมาตรึกตรองดู ทำให้เกิดความรู้สึกแปลกแปลกที่ว่า ผู้บริหารของ จ.ราชบุรี เขาส่งเสริมการท่องเที่ยวกันเช่นนี้หรือ วิธีการอย่างนี้ ผู้เขียนคิดว่าไม่น่าเหมาะสม การที่เอาเสน่ห์ของสวนผึ้งมาเป็นสถานที่ปิดวิก และขายบัตรคอนเสิร์ต และก็ไม่ใช่เป็นคอนเสิร์ตเพื่อการกุศลแต่อย่างใด แต่ จ.ราชบุรี ดันขันอาสาหยิบยกไปแถลงข่าวให้ ก็เท่ากับว่า จ.ราชบุรี เป็นนายหน้าไปช่วยขายบัตรชมคอนเสิร์ตให้กลุ่มผู้จัด
หากงานนี้ จ.ราชบุรี บอกว่าจะส่งเสริมการท่องเที่ยวที่สวนผึ้งจริง คอนเสิร์ตรับลมหนาวนอนดูดาวที่สวนผึ้งในครั้งนี้ต้องเข้าชมฟรี หรือหากจำเป็นต้องขายบัตร ก็ต้องระบุให้ชัดเจนว่า เงินรายได้จะนำไปใช้ในการกุศลเรื่องใด เช่น เป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียนยากจนของ อ.สวนผึ้ง จัดซื้ออุปกรณ์การเรียนให้แก่โรงเรียนที่ขาดแคลนใน อ.สวนผึ้ง เป็นต้น อย่างนี้ได้ประโยชน์ทั้งการท่องเที่ยวและคนในพื้นที่
ท่านลองมองย้อนกลับไป ตอนที่เคยมีคนเอาวงดนตรีเพื่อชีวิตไปเล่นคอนเสิร์ตในเขาใหญ่ มาเทียบเคียงดูก็จะเห็นภาพได้ชัดเจน ...ชาวเขาใหญ่เขาไม่ได้ต้องการเลย....ธรรมชาติของเขาใหญ่บอบช้ำจากการเหยียบย่ำทำลายของคนที่มาดูคอนเสริ์ต และเมื่อคอนเสิร์ตจบแล้วยังคงเหลือกองซากเศษอาหาร และขยะมูลฝอย ทิ้งไว้อีกจำนวนมาก สรุปแล้วชาวเขาใหญ่ ได้หรือเสียอะไร มีแต่นักดนตรีและคนจัด ที่แบ่งสรรปันส่วนเงินกำไรกันถ้วนหน้า
หากคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นไปตามที่แถลงข่าว ผู้คนคงหลั่งไหลเข้าสวนผึ้งเพื่อไปชมคอนเสิร์ตเป็นจำนวนมาก อาจถึงพันคน...แล้วธรรมชาติที่แสนบริสุทธิ์ของสวนผึ้งจะรองรับไว้หรือ ไหนจะห้องน้ำ ห้องส้วม สถานที่จัดเวที เครื่องไฟ ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่จอดรถ ถังขยะ สาธารณูปโภคต่างๆ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวระหว่างพักค้างอ้างแรม ฯลฯ งานนี้ ไม่ทราบว่า...โรงเรียนสินแร่สยาม จะได้เศษเงินจากค่าเช่าสถานที่ ค่าจัดกิจกรรมต่างต่าง จากกลุ่มผู้จัดสักเท่าใด ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ไม่น่ายอมแลกธรรมชาติและชื่อเสียงอันงดงามของตนเองกับงานนี้เลย และที่สำคัญชาวชุมชนคนรักสวนผึ้งทั้งหลาย รู้หรือยังว่าเขากำลังจะไปจัดคอนเสิร์ตที่บ้านของท่าน
จังหวัดราชบุรีและผู้หลักผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับงานนี้ ต้องช่วยกันคิดให้หนักขึ้น การพาคนจำนวนมากเข้าไปในธรรมชาติที่เปราะบางเหล่านี้ ท่านจะมีวิธีการควบคุมเขาได้อย่างไร (จริงจริงแล้วการจัดคอนเสิร์ตในผืนป่าธรรมชาติ ไม่ควรคิดที่จะกระทำด้วยซ้ำไป) ...หลังจากงานนี้แล้ว...คงต้องตั้งคำถามเหมือนกับการชมคอนเสิร์ตที่เขาใหญ่ว่า ชาวสวนผึ้งได้หรือเสียอะไร...และจังหวัดราชบุรีได้หรือเสียอะไร เช่นกัน
ท้ายสุดฝากถึงชุมชนคนรักธรรมชาติทั้งหลาย ชุมชนคนรักสวนผึ้ง ผู้ประกอบการรีสอร์ท ร้านอาหาร ร้านค้า และผู้ที่เกี่ยวข้องกับสวนผึ้ง ทั้งหลายทั้งปวงด้วยว่า หากเราไม่ช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของสวนผึ้ง ไม่มีการควบคุมจำนวนและคุณภาพนักท่องเที่ยว ขาดทิศทางการพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยว และปล่อยให้นักลงทุนลงมาแสวงประโยชน์ในพื้นที่โดยคำนึงถึงแต่เงินกำไรอย่างเดียว วันหนึ่ง สวนผึ้ง อาจจะเหมือน ปาย ที่แม่ฮ่องสอนก็ได้ ที่วันนี้ ปาย ไม่ได้เหลือเสน่ห์อันใดเลย.... เขียนโดย ชาติชาย คเชนชล 30 พ.ย.2552
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : การแถลงข่าวโครงการ “ชมไอหนาว หมอกขาว ป่าเขียว เที่ยวราชบุรี”