หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2554

แก้รัฐธรรมนูญแล้ว...ประเทศไทยจะมีอะไรดีขึ้นบ้าง

วันนี้..นักการเมืองสร้างเรื่องราวเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 อีกแล้ว สร้างเรื่องสร้างข่าวให้ออกมาเป็นประเด็น "Talk of  the  Town" ดึงความความสนใจของสื่อมวลชน ประชาชน กลุ่มการเมืองต่างๆ รวมทั้งชาวเครือข่ายสังคมออนไลน์ทั้งหลายให้ไปสนใจการแก้ไขรัฐธรรมนูญ  จะได้ไม่มีเวลามาสนใจในเรื่องอื่นๆ ที่รัฐบาลกำลังทำ เช่น การเจรจาตกลงกันเพื่อฮุบผลประโยชน์ของชาติด้านพลังงานหรือเมกกะโปรเจคต์ที่กำลังขับเคลื่อนกันอยู่ 

ที่มาของภาพ
http://chaoprayanews.com/
ตั้งแต่คณะราษฎร ยึดอำนาจและเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2475 จนถึงวันนี้ ประเทศไทยมีรัฐธรรรมนูญมาแล้วถึง 18 ฉบับ และฉบับที่กำลังใช้อยู่นี้ คือ รัฐธรรมนูญแห่งพระราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550  ซึ่งร่างโดย สสร.2  และประชาชนก็ลงประชามติยอมรับกว่า 14 ล้านเสียง แต่วันนี้ นักการเมือง ออกมาบอกว่าต้องปรับปรุงแก้ไขกันอีกแล้ว โดยหาเหตุผลสารพัดขึ้นมาเป็นข้ออ้าง 

ผมไม่ได้คัดค้าน ถ้าหากรัฐธรรมนูญมีอะไรไม่ดีก็สามารถแก้ไขได้ แต่ผมยังไม่เห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะทำลายวิถีทางประชาธิปไตยของคนไทยแต่อย่างใด  เพียงแต่เขาอาจจะขัดขวางวิธีการหากิน วิธีการแสวงหาอำนาจ หรือวิธีการดำรงชีพของพวกนักการเมืืองกันเองตากห่าง นักการเมืองจึงคิดอยากจะแก้ไขเขาอยู่ตลอดเวลา

ปัญหาประเทศไทยไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญ
รัฐธรรมนูญ คือกฏหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ  กฏหมายอื่นใดจะขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญไม่ได้ แต่ปัญหาวันนี้ไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญเป็นแค่เพียงตัวหนังสือที่เขียนเอาไว้  หากใครไม่ทำอะไรไปขัดแย้งก็ไม่เห็นจำเป็นต้องไปแก้ไข  สาเหตุที่ประเทศไทยต้องมีรัฐธรรมนูญถึง 18 ฉบับ เหตุเพราะบางวรรค บางมาตรา ในรัฐธรรมนูญ อาจไปขัดขวางผลประโยชน์บางอย่างของพวกนักการเมืองหรือกลุ่มที่มีอำนาจในขณะนั้น จึงต้องมีการแก้ไขกันอยู่บ่อยๆ  หลักในการคิดของพวกนักการเมืองมีอยู่ง่ายๆ ก็คือ

"หากอยากจะทำในสิ่งที่กฏหมายห้าม ก็ต้องแก้กฏหมายฉบับที่ห้ามไว้นั่นเอง"

สรุปได้ว่า ปัญหาประเทศไทย ไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญ แต่อยู่ที่ "นักการเมือง"


แก้รัฐธรรมนูญแล้ว ประเทศไทยจะมีอะไรดีขึ้นบ้าง?
  • ประเทศไทยจะปลอดจากการทุจริต คอรัปชั่น ฉ้อราษฎร์บังหลวงของบรรดานักการเมือง ข้าราชการ และพ่อค้า  
  • การเลือกตั้งจะเป็นไปด้วยความซื่อสัตย์สุจริต  ปลอดการขายสิทธิ์ ซื้อเสียง
  • ขบวนการล้มเจ้า หมิ่นสถาบันและเปลี่ยนแปลงการปกครองจะหายสาบสูญไปจากประเทศไทย
  • คนไทยจะมีความเสมอภาคและเท่าเทียมกัน มีความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
  • ข้าวปลาอาหาร น้ำ นม เนื้อ ไข่ สินค้าอุปโภค บริโภค จะถูกลง
  • ประเทศไทยของเราจะได้นักการเมืองที่มีอุดมการณ์ มีคุณภาพ เห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก
  • ปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง ภัยหนาว ซ้ำซาก จะหมดไปจากประเทศไทย
  • ประเทศไทยจะปลอดจากยาเสพติด และสิ่งของมึนเมาทั้งหลาย
  • คนไทยจะมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน คดีอาชญากรรมต่างๆ จะลดลง ตำรวจ อัยการ และศาล แทบจะไม่มีงานให้ทำ ในเรือนจำก็ไม่มีนักโทษ
  • จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยจะกลับคืนสู่ความสุข ความสงบและความผาสุกเช่นเดิม
  • ประเทศไทยจะไม่มีผู้บุกรุกทำลายป่า ลุกล้ำพื้นที่อุทยานแห่งชาติและพื้นที่ราชพัสดุ 
  • ชาวนา ชาวสวน ชาวไร่จะร่ำรวยขึ้น  เป็นอาชีพที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีของสังคม ไม่ได้เป็นเพียงแค่ลูกค้าโรงรับจำนำ และลูกหนี้ธนาคาร
  • ร้านโชว์ห่วย และตลาดนัดจะกลับมาผงาดเหมือนเดิม ธุรกิจห้างค้าส่งค้าปลีกขนาดใหญ่ จะซบเซา
  • ประเทศไทยจะเป็นผู้นำและผู้สร้างเทคโนโลยี ไม่ใช่แค่ผู้ที่ซื้อเทคโนโลยีเขามาใช้
  • ประเทศไทยจะผลิตรถยนต์ รถมอเตอร์ไซต์  คอมพิวเตอร์ กล้องถ่ายรูป  ฯลฯ ที่เป็นยี่ห้อของเราได้เอง 
  • ประเทศไทยจะเป็นเจ้าของพลังงานเอง คนไทยจะได้ใช้พลังงานราคาถูก ทั้งไฟฟ้า ประปา น้ำมัน  และก๊าซ  
  • คนไทยจะเสียค่าอินเตอร์เน็ต ค่าโทรศัพท์มือถือ  ค่าการสื่อสาร ค่าเคเบิลทีวี ในราคาถูกลงและเป็นธรรม
  • คนไทยจะเสียค่ารถเมล์  รถตู้ รถแท๊กซี่ รถไฟฟ้า รถใต้ดิน ค่าด่านผ่านทาง ค่าทางด่วน ถูกลง
  • เด็กและเยาวชนของไทยจะเป็นคนที่มีคุณภาพ รักในศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีที่ดีงามของคนไทย และเป็นกำลังสำคัญของประเทศ
  • การศึกษาของไทยจะมีคุณภาพมากขึ้น
  • คนไทยจะกลายเป็นเจ้าของโรงงาน  แทนการเป็นแค่พนักงานโรงงาน
  • ฯลฯ
ประเทศไทย ยังมีเรื่องราวให้ทำอีกมากมาย...มากกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ทำไม? ต้องเสียเงินงบประมาณ  2,000 ล้านบาท ไปใช้ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้
ประเทศไทยมีเงินเหลือเฟือขนาดนั้นเชียวหรือ

อันผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน
แม้นใช้ความเป็นใหญ่
เพื่อประโยชน์และความผาสุกของประชาชน
ซื่อตรงต่อวิชาชีพของตน
ย่อมเป็นขวัญใจของประชาชนชั่วกาลปาวสาน 


************************************  
จุฑาคเชน : 23 ธ.ค.2554


ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์สู่ชนบท ปีที่ 23 ฉบับที่ 392 ประจำเดือนมกราคม พ.ศ.2555 หน้า 3



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น