หน้าเว็บ

วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555

บทความเนื่องในวันป่าไม้โลก : สาเหตุที่ป่าสวนผึ้งถูกเผา

ป่าไม้ ถือว่าเป็นทรัพยากรที่สำคัญต่อมนุษย์โลกทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่ในปัจจุบันการขยายตัวของประชากรโลกอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุให้เกิดการบุกรุกทำลายป่าไม้ เพื่อบุกเบิกพื้นที่ทำกิน และลักลอบตัดไม้ทำลายป่าจำนวนมาก ทำให้พื้นที่ป่าไม้ของโลกลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในแต่ละปีทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น 

เพื่อให้ชาวโลกได้ตระหนักถึงคุณค่าและประโยชน์ของทรัพยากรป่าไม้ และช่วยกันอนุรักษ์ป่าไม้ไม่ให้ถูกทำลายมากไปกว่านี้ จึงมีการกำหนดให้ทุก ๆ วันที่ 21 มีนาคม เป็น "วันป่าไม้โลก (World forestry day)" ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมรณรงค์ต่าง ๆ มากมาย รวมถึงการปลูกป่าในวันนี้ด้วย

วันนี้...ทั่วโลกเขาคงกำลังปลูกป่ากัน แต่ไม่รู้ป่าที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี บ้านผม...ไฟป่าดับหรือยัง แต่แหล่งข่าวแจ้งมาว่าดับหมดแล้ว หลังจากเริ่มไหม้มาตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ก็ยังคงเฝ้าระวังพื้นที่ไม่ให้คนมาแอบจุดอีก  รูปด้านล่างนี้เอามาจากเฟสบุ๊คของคุณบุหลัน  รันตี ซึ่งถ่ายภาพนี้ เอาไว้เมื่อวาน (20 มี.ค.2555) ตอนบ่ายสามโมง




















ไฟป่าสวนผึ้ง...ปริศนาที่ต้องค้น
แหล่งข่าวและชาวบ้านยืนยันแล้วว่า ไฟป่าที่ อ.สวนผึ้ง อ.เมือง จ.ราชบุรี ครั้งนี้ ไม่ใช่ไฟป่าที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ แต่เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ มีคนจ้างให้มาเผา  และขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดออกมาประเมินตัวเลขพื้นที่ป่าที่ได้รับความเสียหายในครั้งนี้อย่างเป็นทางการ  

ที่ราชพัสดุแปลง รบ.553
จ.ราชบุรี มีที่ดินราชพัสดุเนื้อที่รวม 538,117-1-60.34 ไร่ และแปลงที่มีปัญหาการบุกรุกคือ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ รบ.553 เนื่องจากเป็นที่ราชพัสดุแปลงใหญ่ได้มาจากการหวงห้ามที่ดิน ซึ่งมีแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา ซึ่งได้กำหนดเอาบางส่วนของบ้านสวนผึ้ง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี (ต่อมาเป็น ต.สวนผึ้ง, กิ่ง อ.สวนผึ้ง และปัจุบันเป็น อ.สวนผึ้ง ตามลำดับ) โดยมิได้ระบุชื่อ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ไว้ในชื่อพระราชกฤษฎีกาด้วย มีเนื้อที่ประมาณ 3,048,750 ไร่

ปัจจุบันเนื้อที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขต จ.กาญจนบุรี และบางส่วนอยู่ในเขต อ.จอมบึง และ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เฉพาะที่ดินภายในเขตที่ได้ห้วงหามส่วนที่อยู่ใน จ.ราชบุรี ดังกล่าว ได้ขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุเป็น "แปลงหมายเลขทะเบียนที่ รบ.553" เนื่อที่ประมาณ 500,000 ไร่

ใครดูแล
ที่ดินราชพัสดุแปลงนี้มีกองทัพบก เป็นส่วนราชการผู้ครอบครองใช้ประโยชน์ มีหน่วยทหารดูแลคือ กรมการทหารช่าง เป็นหน่วยดูแลใช้ประโยชน์พื้นที่ ประมาณ 239,000 ไร่ กองพลพัฒนาที่ 1 เป็นหน่วยดูแลใช้ประโยชน์พื้นที่ ประมาณ 261,000 ไร่ (เขต อ.สวนผึ้ง ประมาณ 171,000 ไร่ และเขต อ.จอมบึง ประมาณ 90,000 ไร่) จำนวนนี้ครอบคลุมพื้นที่โครงการอุทยานธรรมชาติวิทยาฯ ประมาณ 132,905 ไร่ และเขตพื้นที่ปฏิรูปที่ดิน ประมาณ 13,500 ไร่ และยังมีส่วนราชการ วัด สำนักสงฆ์ ใช้ที่ราชพัสดุแปลงนี้อีก เช่น โรงเรียน สถานีอนามัย ที่ว่าการอำเภอสวนผึ้ง วัด และแหล่งน้ำหรือสาธารณประโยชน์ต่างๆ เป็นต้น

นอกจากนี้ กรมธนารักษ์โดยจังหวัดราชบุรี ยังได้พิจารณาอนุญาตให้ส่วนราชการต่างๆ เข้าใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุแปลงดังกล่าวไปแล้วจำนวนมาก เช่น
  • สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช้เป็นที่ตั้ง กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 137 เนื้อที่ 532-1-83.68 ไร่
  • กรมชลประทานใช้เป็นคลองชลประทาน เนื้อที่ประมาณ 284-0-00 ไร่
  • กรมทางหลวง ใช้เพื่อก่อสร้างทางหลวงและที่เก็บวัสดุ เนื้อที่ประมาณ 473-3-37.50 ไร่

แนวทางการบริหารจัดการที่ราชพัสดุ
กรมธนารักษ์ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อรวบรวมข้อมูลและเสนอแนวทางในการบริหารจัดการที่ราชพัสดุแปลงดังกล่าว ซึ่งคณะทำงานฯ ได้กำหนดแนวทางและขั้นตอนในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดิน โดยได้กำหนดพื้นที่ที่จะดำเนินการ คือ พื้นที่ที่ได้มีการสำรวจรังวัดและทำแผนที่กายภาพไว้แล้ว เมื่อปี พ.ศ.2538 โดยจะทำการปักหลักเขตตามแผนที่กายภาพปี 2538 ให้เห็นชัดเจน และจะทำงานในลักษณะบูรณาการกับกองทัพบกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สำหรับขั้นตอนการดำเนินการจะทำการแบ่งกลุ่มผู้ครอบครองที่ดินเป็น 3 กลุ่ม คือ
  • กลุ่มผู้ขอเช่าใหม่ (อยู่อาศัย/การเกษตร) ก็จะทำการตรวจสอบรังวัดจัดทำแผนที่พิจารณาพื้นที่ว่าอยู่ในหลักเกณฑ์การจัดให้เช่าหรือไม่ กำหนดอัตราค่าเช่าตามวัตุประสงค์ และเสนอขออนุมัติ/จัดทำสัญญา
  • กลุ่มผู้เช่าเดิม ก็จะต้องทำการตรวจสอบการใช้ประโยชน์ หากพบว่าครอบครองภายในเขตเช่าก็จะตรวจสอบการใช้ก็จะตรวจสอบการใช้ประโยชน์ว่าถูกต้องตามวัตถุประสงค์หรือไม่ หากครอบครองเกินเขตเช่าก็จะต้องปรับพื้นที่ลดลงมาให้ถูกต้องเป็นไปตามสัญญาเช่า หรือหากพื้นที่เช่าไม่ถูกหลักเกณฑ์ เช่น อยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำหรือความลาดชันเกิน 35% ก็จะต้องลดเนื้อที่เช่าหรือระงับการต่อสัญญาเช่า
  • กลุ่มรีสอร์ท ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
    • กลุ่มที่จัดให้เช่าแล้ว จะต้องตรวจสอบและกำหนดอัตราค่าเช่าให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์
    • กลุ่มที่ยังไม่ได้เช่า กลุ่มนี้ยังแยกได้เป็น 2 กรณี คือ
      • กรณีที่ 1 ยินยอมยื่นคำร้องขอเช่าก็จะดำเนินการตรวจสอบรังวัดทำแผนที่ พิจารณาหลักเกณฑ์การเช่า กำหนดอัตราค่าเช่า และเสนออนุมัติ/จัดทำสัญญาเช่า
      • กรณีที่ 2 ไม่ยินยอมเช่า ก็จะดำเนินการรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีต่อไป


ใครจะได้ประโยชน์จากการเผาป่าสวนผึ้ง
ที่ต้องนำเนื้อหาความเป็นมาของที่ราชพัสดุ รวมทั้งผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในที่พื้นที่มาให้ทราบพอสังเขป ก็เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการคิดต่อไปว่า "ใครจะได้ประโยชน์จากการเผาป่าสวนผึ้ง" จากการพูดคุยสนทนากับชาวบ้านและผู้ทรงคุณวุฒิในพื้นที่บางท่าน พอจะอนุมานได้ว่าสาเหตุที่มีการเผาป่าสวนผึ้ง น่าจะมาจากสาเหตุต่างๆ เหล่านี้ คือ
  1. ต้องการให้พื้นที่ป่าที่ยังอุดมสมบูรณ์หรือเป็นป่าต้นน้ำ กลายเป็นป่าเสื่อมโทรม หลังจากนั้นจึงทำเรื่องขอเช่าพื้นที่เพื่อทำประโยชน์ต่อไป  เช่น การสร้างรีสอร์ทขนาดใหญ่ การขยายพื้นที่ทำกิน  เป็นต้น
  2. พื้นที่ป่าที่ถูกเผาเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกันทั้งฝั่งชายแดนไทยและฝั่งพม่า อย่างมีนัยสำคัญ อาจสอดคล้องกับพื้นที่ที่จะมีการพัฒนาเป็นจุดผ่อนปรนตามแนวชายแดนในอนาคต  หากบริเวณพื้นที่โดยรอบเหล่านี้เป็นป่าเสื่อมโทรมแล้ว การขอเช่าทำประโยชน์ก็จะทำได้ง่ายขึ้น
  3. ด้วยเหตุที่ทางราชการเอาจริงเอาจังกับเรื่องการบุกรุกที่ดินราชพัสดุ ทำให้ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่บางคนบางกลุ่มเกิดการต่อต้าน เพราะเสียผลประโยชน์จากการเก็บค่าภาษี และค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ไม่ถูกต้องตามกฏหมาย
  4. เผาเพื่อต้องการงบประมาณในการฟื้นฟูป่ามาลงในหน่วยงานของตนเอง เพื่อจะได้คอรัปชั่น โกงกินกันต่อไป   
  5. ?????
ขอสงวนสิทธิ์ถึงสาเหตุที่กล่าวมานี้ เพราะเป็นแค่เพียงการอนุมาน ผู้อ่านไม่ควรนำไปเป็นข้อมูลในการกล่าวอ้างใดๆ จนกว่าเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง จะทำการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้จนเป็นที่เรียบร้อย

วันนี้ วันที่ 21 มีนาคม เป็นวันป่าไม้โลก แทนที่ป่าสวนผึ้งจะมีกิจกรรมปลูกป่า กลับกลายเป็นว่าชาวบ้านนักอนุรักษ์และเจ้าหน้าที่บางส่วน ต้องเสียสละเวลาจัดเวรยามมาเฝ้าระวังรักษาป่า ไม่ให้มี "ผู้ใดกล้ามาจุดไฟเผาอีก" ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมหนึ่งในวันป่าไม้โลกในวันนี้ ขอชื่นชมทุกๆ ท่าน ด้วยจิตคารวะ

ภาพไฟไหม้ป่าที่สวนผึ้ง















***************************
จุฑาคเชน : 21 มี.ค.2555

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ21 เมษายน 2555 เวลา 17:23

    จะเห็นแก่ตัวไปถึงไหน พวกโกงชาติบ้านเมือง ตายไปขออย่าได้ผุดเกิด

    ตอบลบ