หน้าเว็บ

วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2562

นั่งรถไฟไปมาเลเซีย ตอนที่ 2 หาดใหญ่-ตำมะลัง

ต่อจากตอนที่ 1 ราชบุรี-หาดใหญ่

เช้าวันพฤหัสบดีที่ 27 ธ.ค.2561 หลังจากลงรถไฟที่สถานีหาดใหญ่ จ.สงขลา เวลา 06.21 น. พวกเรานั่งรถตู้ที่เหมาไว้ วิ่งข้ามมาทางฝั่งทะเลอันดามัน ตามเส้นทางหมายเลข 406 เพื่อไปยังท่าเรือตำมะลัง ต.ตำมะลัง อ.เมือง จ.สตูล ระยะทางประมาณ 111 กม.เพื่อขึ้นเรือเฟอรี่เดินทางไปยังเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย กว่าจะถึงโรงแรม The One Boutique Hotel บริเวณ อ.เมือง จ.สตูล ซึ่งจองไว้ชั่วคราวสำหรับอาบน้ำ ล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้า และรับประทานอาหารเช้า ก็เวลาเกือบ 08.30 น. เวลาจำกัดมากครับ ทุกคนต้องรีบเร่ง เพื่อไม่ให้พลาดเรือเฟอรี่เที่ยวแรกเวลา 09.00 น. เพราะจากโรงแรมฯ ยังต้องใช้เวลาเดินทางไปท่าเรืออีก ประมาณ 15 นาที (ประมาณ 11 กม.) หากใครไปเที่ยวแบบนี้ ต้องบริหารเวลาให้ดี อาจตกเรือเที่ยวแรกได้  (หากไปรอเรือ เที่ยวที่ 2 และ 3 ก็จะมีเวลาเที่ยวที่เกาะลังกาวีน้อยลง) 



เรือเฟอรี่เที่ยวแรกกำหนดออกจากท่าเรือตำมะลัง เวลา 09.00 น. คณะพวกเรามาถึงไม่ทันเวลา เลยไม่มีเวลาแอ๊คท่าถ่ายรูปสวยๆ ที่ท่าเรือนี้เลย เสียดาย.. แต่ไกด์ได้ โทร.มาแจ้งท่าเรือล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว เป็นการรับประกันว่าไม่ตกเรือ เมื่อถึงท่าเรือ พวกเราทุกคนต้องรีบเร่งนำพาสปอร์ตไปลงรับประทับตราเพื่อผ่านกรรมวิธีออกนอกประเทศไทยให้เรียบร้อย ถึงจะขึ้นเรือเดินทางไปยังเกาะลังกาวีได้ กว่าพวกจะได้ลงเรือ โหลดกระเป๋าเรียบร้อย ก็ปาเข้าไปเกือบ 09.20 น. เห็นมีฝรั่งอยู่กรุ๊ปหนึ่ง ยกนาฬิกาขึ้นดู สายตามองพวกเราเหมือนตำหนิว่าพวกเราไม่ตรงเวลา ผมสังเกตเห็นพอดี เลยเดินเข้าไปขอโทษเขา  บอกเหตุผลว่ารถมันติดในเมืองสตูล เพราะตอนเราเดินทางผ่านเมืองสตูล เป็นชั่วโมงเร่งด่วนพอดี ไม่ได้ตั้งใจจะมาช้า รู้สึกว่าเขาเข้าใจและไม่ได้โกรธเคืองใดๆ 


ตั๋วเรือเฟอรี่เดินทางไปลังกาวี ราคา 350 บาท
กระจกหน้าต่างห้องผู้โดยสาร ปิดทึบด้วยฟิล์มสีชมพู
ห้ามทุกคนออกไปนอกห้องผู้โดยสาร
พวกที่ตั้งใจกินลม ชมวิวทะเลอันดามัน ผิดหวังครับ 
นั่งอยู่ในเรือเฟอรี่ อย่างนี้แหละครับ เป็นชั่วโมง
เรือเฟอรี่ที่แล่นไปยังเกาะลังกาวี ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ผมรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในคุก เพราะมีกฎข้อห้ามของการเดินเรือ ห้ามไม่ให้ผู้โดยสารออกไปนอกห้องโดยสารเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัย แถมในห้องผู้โดยสารกระจกก็ถูกปิดด้วยฟิล์มสีชมพู จึงไม่เห็นแสงเดือนแสงตะวันเลย รู้สึกไร้ความสุขในการเดินทาง ไม่ได้กินลมชมวิวทะเลใดๆ นั่งนึกในใจว่า ผมเหมือนนักโทษที่กำลังจะถูกส่งไปยังเกาะตรุเตา เกาะที่เคยใช้เป็นที่คุมขังนักโทษในสมัยก่อน (เกาะตรุเตา อยู่ไม่ไกลจากเกาะลังกาวี หากทัศนวิสัยดี ทั้ง 2 เกาะจะมองเห็นกัน)



เรือเฟอรี่ลำนี้แหละครับ ที่นำพาเราเดินทางมาจากท่าเรือตำมะลัง


********************************
อ่านต่อ ตอนที่ 3 ลังกาวี : อัญมณีแห่งไทรบุรี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น