วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2559

รู้ว่า..วันนี้ต้องมาถึง



ผมเคยคิดในใจเงียบๆ เสมอมาว่า วันนี้ ต้องมาถึง...
ผมเตรียมทำใจให้ยอมรับไว้เสมอ แล้วมันก็มาถึงจริงๆ ...
แม้จะเตรียมทำใจไว้แล้วก็ตาม  ความรู้สึกหดหู่ สูญเสีย และอ้างว้าง  มันก็ยังคงปกคลุมจิตใจของผมอยู่ดี แม้ว่าภายนอกผมจะดูเข้มแข็ง แต่ในใจกลับแตกต่างโดยสิ้นเชิง ยิ่งกว่าตอนที่ผมสูญเสียพ่อของผมเองเสียอีก

หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ตั้งแต่ พ.ศ.2475 เป็นต้นมา แผ่นดินไทยไม่เคยสงบอย่างจีรัง ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ และนักการเมือง ผลัดเปลี่ยนแย่งชิงอำนาจการปกครองกันมาโดยตลอด จนกระทั่งปี พ.ศ.2489 พี่ชายซึ่งเป็นที่รักยิ่งของพระองค์ท่าน ก็ต้องจากพระองค์ท่านไปอย่างไม่มีวันกลับ ด้วยพิษสงของอำนาจดังกล่าว 

"ภาระความเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรไทย จึงตกอยู่ที่พระองค์ท่านตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ท่ามกลางมนต์ดำแห่งความกระหายอำนาจของบุคคลหลายกลุ่มในประเทศไทย"




เหตุการณ์ร้ายในสมัยพระองค์
เหตุการณ์ร้ายๆ ที่เกิดขึ้นในรัชสมัยของพระองค์ท่าน  จากความหลงในมนต์ดำของอำนาจและความอยากเป็นผู้ปกครองของบรรดาคนไทยด้วยกันเอง พอที่จะสรุปเรียบเรียงได้ ดังนี้ 
  • พระชนมายุ 19 พรรษา 9 มิ.ย.2489 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 สวรรคต (ดูรายละเอียด) และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ทรงขึ้นครองราชย์ เป็นรัชกาลที่ 9
  • พระชนมายุ 20 พรรษา 8 พ.ย.2490 การรัฐประหาร นำโดย พล.ท.ผิน ชุณหะวัณ ยึดอำนาจรัฐบาล พล.ร.ต.ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ (ดูรายละเอียด)
  • พระชนมายุ 21 พรรษา  6 เม.ย.2491 คณะนายทหารกลุ่มที่ทำการรัฐประหาร 8 พ.ย.2490 จี้บังคับให้ นายควง อภัยวงศ์ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และมอบตำแหน่งต่อให้ จอมพล ป. พิบูลสงคราม
  • พระชนมายุ 21 พรรษา 1 พ.ย.2491 กบฎแบ่งแยกดินแดน (ดูรายละเอียด)
  • พระชนมายุ 22 พรรษา 26 ก.พ.2492 กบฏวังหลวง (ดูรายละเอียด)
  • พระชนมายุ 24 พรรษา 29 มิ.ย.2494 กบฏแมนฮัตตัน (ดูรายละเอียด)
  • พระชนมายุ 24 พรรษา 29 พ.ย.2494 การรัฐประหาร นำโดยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ยึดอำนาจรัฐบาลตนเอง (ดูรายละเอียด)
  • พระชนมายุ 25 พรรษา 10 พ.ย.2495 กบฏสันติภาพ (ดูรายละเอียด)
  • พระชนมายุ 30 พรรษา 16 ก.ย.2500 การรัฐประหาร นำโดย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ยึดอำนาจรัฐบาล จอมพล ป.พิบูลสงคราม
  • พระชนมายุ 31 พรรษา 20 ต.ค.2501 การรัฐประหารเงียบ นำโดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ยึดอำนาจรัฐบาล จอมพลถนอม กิตติขจร (ดูรายละอียด)
  • พระชนมายุ 38 พรรษา 7 ส.ค.2508 วันเสียงปืนแตก พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยใช้อาวุธโจมตีกองกำลังของรัฐบาลไทยเป็นครั้งแรก (ดูรายละเอียด) เหตุการณ์พรรคคอมมิวนิสต์สงบลงในปี พ.ศ.2525
  • พระชนมายุ 44 พรรษา 17 พ.ย.2514 การรัฐประหาร  โดย จอมพลถนอม กิตติขจร ยึดอำนาจรัฐบาลตนเอง (ดูรายละเอียด)
  • พระชนมายุ 46 พรรษา 14 ต.ค.2516 วันมหาวิปโยค เรียกร้องรัฐธรรมนูญ ขับไล่ จอมพลถนอม กิตติขจร  จอมพลประพาส จารุเสถียร และพันเอกณรงค์ กิตติขจร   (ดูรายละเอียด)
  • พระชนมายุ 49 พรรษา 6 ต.ค.2519 การต่อต้านการเดินทางกลับประเทศไทยของ จอมพลถนอม กิตติขจร การรัฐประหาร นำโดย พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ ยึดอำนาจรัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช (ดูรายละเอียด)
  • พระชนมายุ 50 พรรษา 26 มี.ค.2520 กบฎพลเอกฉลาด (ดูรายละเอียด)
  • พระชนมายุ 50 พรรษา 20 ต.ค.2520 การรัฐประหาร นำโดย พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ ยึดอำนาจรัฐบาล นายธานินทร์ กรัยวิเชียร 
  • พระชนมายุ 64 พรรษา 23 ก.พ.2534 การรัฐประหาร นำโดย พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ยึดอำนาจรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ (ดูรายละเอียด)
  • พระชนมายุ 65 พรรษา พ.ศ.2535 เกิดเหตุการณ์ พฤษภาทมิฬ (ดูรายละเอียด)
  • พระชนมายุ 78 พรรษา พ.ศ.2548 เกิดปรากฏการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประชาชนแบ่งแยกออกเป็น "เสื้อเหลือง" และ "เสื้อแดง" (ดูรายละเอียด)
  • พระชนมายุ 79 พรรษา 19 ก.ย.2549 ปฏิวัติ นำโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ยึดอำนาจรัฐบาลรักษาการ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร (ดูรายละเอียด)
  • พระชนมายุ 86 พรรษา พ.ศ.2556 เกิดปรากฏการณ์ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.)(ดูรายละเอียด)
  • พระชนมายุ 87 พรรษา 22 พ.ค.2557 การรัฐประหาร นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจรัฐบาลรักษาการนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล (ดูรายละเอียด)
ที่นำมาเรียบเรียงก็เพื่อให้เห็นว่า ตลอดพระชนมายุของพระองค์ท่านที่ทรงครองสิริราชสมบัติ มีเรื่องราวที่ก่อให้เกิดความยากลำบากต่อพระราชหฤทัยของพระองค์ท่านหลายครั้งหลายครา  พระองค์ไม่ได้มีความสุขอย่างที่พวกเราคิด  พระองค์ท่านได้ทรงประคับประคองราชอาณาจักรไทยจนกระทั่งสามารถผ่านร้อน ผ่านหนาวมาได้หลายครั้งหลายครา จากการแย่งชิงอำนาจของบรรดากลุ่มคนไทยด้วยกันเอง และจากปากเยี่ยวปากกาของชาวต่างชาติทั้งหลายที่ต้องการจะยึดครองราชอาณาจักรไทย 



แต่ในขณะเดียวกัน พระองค์ท่านก็ไม่วายที่จะทรงตรากตรำพระวรกายเสด็จไปเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ทั่วประเทศไม่เว้นแม้แต่ในถิ่นทุรกันดาร  เพื่อหาทางช่วยเหลือและแก้ปัญหาให้ราษฎรของพระองค์ท่าน มีความกินอยู่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี จนเกิดโครงการตามแนวพระราชดำริจำนวนมากมายหลายโครงการ ดังเช่นปัจจุบัน

นักต่อจากนี้ ลูกๆ ของพ่อน่าจะหยุดทะเลาะกันได้แล้ว
ดวงพระวิญญาณของ "พ่อ" คงไม่อยากเห็น "ลูกๆ" ทะเลาะเบาะแว้งกันอีก 

เศรษฐกิจพอเพียง ที่ยังไม่สำเร็จ
ตั้งแต่ พ.ศ.2517 เป็นต้นมา พระองค์ท่านทรงเล็งเห็นว่ากระแสเศรษฐกิจทุนนิยมและบริโภคนิยมกำลังแพร่กระจายไปทั่วทุกมุมโลก พระองค์ท่านจึงได้เริ่มเผยแพร่ "แนวคิดปรัชญาเศรษกิจพอเพียง" ให้แก่ประเทศไทย 

“...การพัฒนาประเทศจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น ต้องสร้างพื้นฐานคือ ความพอมี พอกิน พอใช้ของประชาชนส่วนใหญ่เบื้องต้นก่อน โดยใช้วิธีการและอุปกรณ์ที่ประหยัดแต่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เมื่อได้พื้นฐานความมั่นคงพร้อมพอสมควร และปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญ และฐานะทางเศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลำดับต่อไป...” (18 กรกฎาคม 2517) (ดูรายละเอียด)




หลายปีผ่านมาจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ ในทัศนะส่วนตัวแล้ว ผมยังเห็นว่าแนวทางการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิตของคนไทย ยังถือว่าไม่ประสบผลสำเร็จ  พวกเราทำได้แต่เปลือกนอก ยังไม่ถึงแก่นที่แท้จริง สังเกตได้จากพฤติกรรมการบริโภคนิยมและวัตถุนิยมของลูกหลานชาว Generation Z ของเราส่วนใหญ่ที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน โครงการต่างๆ ที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงที่หน่วยงานภาคราชการพยายามสร้างและพัฒนาขึ้น ล้วนไม่มีความมั่นคงและยั่งยืน ประเทศไทยยังตกอยู่ภายใต้เศรษฐกิจของทุนนิยม 

ดังนั้น...หากพวกเรารักพระองค์ท่านจริง จงพยายามยึดมั่นแนวทางการดำเนินชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่านไว้เป็นสำคัญ และช่วยสร้างให้มันเป็นจริงอย่างยั่งยืน 

สิ่งที่ผมทำได้
ผมเป็นเพียงข้าราชการเล็กๆ คนหนึ่ง ซึ่งไม่ได้มีอำนาจบารมีอะไรมากนัก แต่สิ่งที่ผมคิดว่า ผมจะทำให้ดีที่สุดตอนนี้ ก็คือ คำสัตย์ปฎิญาณที่ผมเคยให้ไว้ต่อพระองค์ท่าน ที่กล่าวว่า

"ข้าพระพุทธเจ้า จะประพฤติตนเป็นข้าราชการที่ดี มีความซื่อสัตย์สุจริต เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท มุ่งมั่นแน่วแน่ แก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชน สร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่แผ่นดิน และดำเนินชีวิตโดยยึดมั่น ในหลักธรรมคำสอนแห่งศาสนา และตามแนวทางในพระบรมราโชวาท ตลอดไป"

แผ่นดินไทยจะเจริญหรือเสื่อมสลาย ก็เพราะข้าราชการอย่างพวกเรานี้แหละ ที่จะต้องเป็นเสาหลักสำคัญของแผ่นดิน หากเป็นเช่นนี้แล้ว ดวงพระวิญญาณพระองค์ท่านจะได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินสู่สวรรคาลัย ด้วยความสุขพระราชหฤทัยสืบไป

***********************
ชาติชยา ศึกษิต

จำขึ้นใจ ข้าราชการที่ดี (https://www.youtube.com/watch?v=sDfO0CQnc8k)

ไม่มีความคิดเห็น: