วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2550

สังคมไซเบอร์กำลังแย่งเด็กจากพวกเราไป

หากพวกเราไม่หาวิธีการหรือเครื่องมือใดๆ มาต่อสู้ หรือหยุดภาพเหล่านี้ไว้ วันหนึ่ง...เราอาจจะเสียเด็กและเยาวชนของเราไป และเสียประเทศไทยในที่สุด...

ปัญหาเด็กและเยาวชนที่ติดเกมคอมพิวเตอร์ กำลังเป็นปัญหาสำคัญที่ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านในเมืองกำลังให้ความสนใจและแก้ปัญหา คงหมายร่วมถึงผู้ปกครองอีกหลายท่านที่กำลังปวดหัวกับการแก้ปัญหาเรื่องลูกติดเกม

ผมได้อ่านหนังสือรู้ทันเกมคอมพิวเตอร์ (ยืน ภู่วรวรรณ และณัช ภู่วรวรรณ. 2550 : 88) เขียนไว้น่าสนใจมากว่า “เกมคอมพิวเตอร์เป็นตัวอย่างหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงเด็กในปัจจุบัน สังคมไซเบอร์กำลังแทรกซึมความคิดของเด็ก เกมออนไลน์หลายเกมสร้างสังคมเสมือนจริง (Visual Real Society) ที่ดึงเด็กและเยาวชนจำนวนมากเข้าไปในไซเบอร์สเปซ (Cyberspace) วิถีชีวิตในไซเบอร์สเปซคงจะเป็นบทบาทที่สำคัญในอนาคตอย่างมาก การดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในอนาคตอาจคล้ายกับการเล่นเกมออนไลน์ของเด็กในปัจจุบันนี้ก็ได้”

ในวันที่ผมเข้าร่วมประชุมวิชาการ เรื่อง ICT เพื่อการศึกษาไทย เมื่อ 7 พ.ย.2550 ที่ ม.เกษตรศาสตร์ ผมได้พยายามสรุปประเด็นต่างๆ ที่บรรดาคณาจารย์และผู้เชี่ยวชาญ ได้บรรยายให้ฟัง เกี่ยวกับสาเหตุที่เด็กและเยาวชนติดเกม ซึ่งพอที่จะสรุปได้ในทัศนะของผม ดังนี้

1.เด็กสามารถจะเป็นอะไรก็ได้ ตามที่อยากเป็นในโลกของไซเบอร์ เช่น นักต่อสู้ นักผจญภัย ทหาร ตำรวจ นักสืบ นักบิน นักร้อง นักดนตรี นักเต้น ฯลฯ ผิดกับชีวิตจริงที่ต้องถูกบังคับอย่างไร้สาระ ทั้งระบบการเรียนที่สับสน ทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองที่ต้องการอยากจะให้เขาเป็น
2.โลกของไซเบอร์เป็นโลกแห่งความจริงไม่หลอกหลวง หากเด็กสามารถทำอะไรได้ตามที่เกมกำหนด ก็จะมีพลังอำนาจ เครื่องไม้ เครื่องมือ อาวุธ (ITEM) เพิ่มขึ้นได้จริง แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง พวกเรามักจะบอกเด็กให้ทำโน่น ทำนี่ แต่ไม่เคยเกิดผลที่เป็นจริงต่อตัวเขาเหมือนในเกม
3.ในเกม เด็กสามารถกำหนดสภาวะแวดล้อมได้ตามที่ใจต้องการ ในเกมบางเกมสามารถกำหนดได้ว่า เด็กอยากจะเป็นอะไร มีนิสัยใจคอและลักษณะอย่างไร หล่อหรือไม่หล่อ สวยหรือไม่สวย อยากจะแต่งตัวแบบใด อยากมีบ้านมีเมือง มีอาชีพอย่างไร อยากจะไปอยู่ที่ไหนในโลกใบนี้ หรือแม้แต่นอกโลก ก็ไปได้ ผิดกับโลกแห่งความเป็นจริงที่เด็กต้องอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่แสนลำบากยากเข็ญ
4.เด็กได้รับเกียรติและการยกย่องเมื่อเขาทำสำเร็จ ในเกมออนไลน์จะมีการจัดอันดับของผู้กล้าและผู้เก่ง ทำให้เด็กใฝ่ฝันและพยายามเล่นเกมเพื่อให้ได้เป็นผู้ชนะในสังคมของเขา เมื่อเขาชนะ เขาจะได้รับการยกย่อง มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี แต่เมื่อเขากลับสู่ในโลกแห่งความเป็นจริงกลับมีแต่คนที่ดูถูก และไม่รู้จักความสำคัญหรือความเก่งในตัวของเขา

ในปัจจุบันนี้จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า เงินที่เด็กนักเรียนได้รับจากพ่อแม่ผู้ปกครอง (เฉพาะเด็กที่ติดเกม) ส่วนใหญ่จะใช้ไปในการเล่นเกม ตามร้านเกมที่มีอยู่ทั่วไป ซึ่งหาได้ไม่ยากในสังคมที่เรียกว่าเจริญ ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านของเมืองก็รู้อยู่เต็มอก แต่เหมือนกับน้ำท่วมปาก เพราะร้านเกมที่ผิดกฎหมายหลายแห่ง หากสืบสาวราวเรื่องแล้วก็ไม่พ้นไปเกี่ยวพันกับผู้หลักผู้ใหญ่นั่นเอง....

เด็กและเยาวชนเดี๋ยวนี้ โลกไซเบอร์กำลังแย่งเขา จากพวกเราไป หากแย่งไปได้ดี ก็ดีไป แต่หากแย่งไปแล้วทำให้เขายิ่งลืมตัวลืมตน และลืมชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริงที่ไม่เป็นอย่างในเกม เมื่อเขากลับออกมาจากโลกไซเบอร์ เขาคงจะยอมรับไม่ได้....แล้วอนาคตสังคมไทยจะเป็นอย่างไร...

ผมลองมาทบทวน ภาพของเด็กและเยาวชนที่ผมเห็น ในยุคที่ประเทศไทยบอกว่า มีการจัดการศึกษาที่มีมาตรฐาน...มีคนคอยประเมินมาตรฐานคุณภาพการศึกษาอยู่อย่างต่อเนื่อง โครงการร้อยแปดพันเก้าโครงการ ถูกนำลงมาสู่โรงเรียน...แล้วลองมามองภาพเด็กและเยาวชนในยุคปัจจุบัน ว่าเป็นอย่างไรบ้าง (เฉพาะที่ผมเห็นนะครับ..ขอโทษเด็กดีๆ ด้วย)

-ชอบแต่งตัว ทำผม ทำหน้าทำตา ทำนิสัย ทำพฤติกรรม เป็นเด็กเกาหลี ญี่ปุ่น...
-ชอบขับขี่และนั่งรถมอเตอร์ไซด์ที่ตกแต่งแบบ จ๊าบๆ เสียงดังๆ เวลาขี่ต้องโฉบเฉี่ยว สวีตสวาด ชี่ช้าไม่เป็น ไม่เกรงใจคนใช้รถใช้ถนนรอบข้าง แหกกฎจราจรได้ เป็นเรื่องเท่ห์...ดึกๆ ตำรวจนอน มาหาถนนแข่งขันกัน....
-พูดคุยเรื่องเกม เรื่องนักร้อง เรื่องดาราดังๆ ถือเป็นคนทันสมัย..(หากพูดเรื่องเรียน ..เรื่องทำการบ้าน...หงี่เหง่า..)
-พกโทรศัพท์มือถือรุ่นจ๊าบ ดูหนัง ฟังเพลง ถ่ายรูป... (ทำตัวว่าข้ามีเทคโนโลยี..หารู้ไม่ว่า แค่เป็นขี้ข้าเทคโนโลยี)
-ใครไม่เล่นเอ็ม..เล่นแช็ท..พูดภาษาแอ็บแบ๊ว..เชยแหลก..
-หนีบ้านมาเช่าหอ อิสระดี...ชอบเรียนไกลบ้าน ได้ไม่ต้องฟังเสียงพ่อแม่ด่า...หาแฟนมาอยู่เป็นเพื่อนด้วย พอเบื่อก็เปลี่ยนคน...
-แต่งตัวตามแฟชั่น กางเกงขาสั้น สายเดี่ยว...(บางคนไม่เคยดูสารรูปตัวเอง)
-หนีโรงเรียนได้ สะใจ...ข้าเก่ง...เรื่องเรียนข้าไม่สนใจ..เดี๋ยวโรงเรียนก็ให้จบเอง...ตกดึก ออกเที่ยว ดูคอนเสิร์ต ฟังเพลง ดิ้น เม้าท์แตก...เงินหมดขอแม่...แม่ไม่ให้ก็หากิน....

นี่ละครับภาพที่พวกเรามักจะเห็นอยู่เป็นประจำ แต่อย่าเพิ่งท้อแท้ใจ ...ภาพที่เห็นยังเป็นเพียงแค่บางส่วน ซึ่งยังถือเป็นส่วนน้อยในสังคมไทย แต่หากพวกเราไม่หาวิธีการหรือเครื่องมือใดๆ มาต่อสู้ หรือหยุดภาพเหล่านี้ไว้ วันหนึ่ง...เราอาจจะเสียเด็กและเยาวชนของเราไป และเสียประเทศไทยในที่สุด...

1 ความคิดเห็น:

thai-diy กล่าวว่า...

เสธ.ครับ เว็บที่เกี่ยวกับ Model
http://as.nida.ac.th/~rattakorn/Forum/Software_Engineering/regular/3_Agile/Agile_Modeling.htm

และ ที่ http://www.agilemodeling.com/

และ http://www.extremeprogramming.org/