วันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

จ่ายค่าตอบแทนผู้ที่มีใบประกอบวิชาชีพครูทั่วทั้งประเทศ ไม่จำกัดเฉพาะครูที่เป็นข้าราชการ

ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เป็นใบอนุญาตให้สามารถประกอบวิชาชีพนั้น ๆ ตามสาขาที่เรียนมา โดยผู้ที่จะได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพจะต้องมีคุณสมบัติตามที่องค์กรออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ กำหนดไว้ ผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพจะไม่สามารถประกอบวิชาชีพนั้น ๆ ได้ ถ้าฝ่าฝืนจะมีโทษตามที่องค์กรวิชาชีพแต่ล่ะองค์กรกำหนดไว้

ปัจจุบัน ประเทศไทยมีวิชาชีพที่ต้องมีใบอนุญาตเพื่อประกอบวิชาชีพ ได้แก่
  • ใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ ออกโดย แพทยสภา
  • ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม ออกโดย แพทยสภา
  • ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทันตกรรม ออกโดย ทันตแพทยสภา
  • ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ ออกโดย สัตวแพทยสภา
  • ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ออกโดย สภาเภสัชกรรม
  • ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ออกโดย สภาการพยาบาล
  • ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ ออกโดย สภาเทคนิคการแพทย์
  • ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัด ออกโดย สภากายภาพบำบัด
  • ใบอนุญาตให้เป็นทนายความ ออกโดย สภาทนายความ 
  • ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ออกโดย สภาวิศวกร
  • ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรม ออกโดย สภาสถาปนิก
  • ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ออกโดย คุรุสภา
  • ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม ออกโดย สภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่าตอบแทนใบประกอบวิชาชีพ
ค่าตอบแทนใบประกอบวิชาชีพแต่ละสาขา มีอัตราที่แตกต่างกัน และในแต่ละสาขายังแบ่งค่าตอบแทนอีกเป็นหลายระดับ เช่น  ในทางราชการ กำหนดให้ แพทย์ ได้รับตั้งแต่ 5,000 ไปจนถึง 15,000 บาทต่อเดือน เภสัชกร ตั้งแต่ 1,500 ไปจนถึง 3,000 บาทต่อเดือน เป็นต้น  สำหรับภาคเอกชนบางแห่ง  อาจจ่ายค่าตอบแทนใบประกอบวิชาชีพแต่ละสาขาสูงกว่าทางราชการหลายเท่านัก เช่น อาชีพวิศวกร เป็นต้น 

การต่ออายุใบประกอบวิชาชีพของแต่ละสาขาอาชีพ จะมีระยะเวลาที่กำหนดไม่เท่ากัน รวมถึงวิธีการวัด ประเมินผล และกระบวนการที่แตกต่างกันไป เพื่อที่จะใช้วัดความสามารถของผู้ที่จะขอต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพนั้นๆ ตามเทคนิคของตนเอง  


ค่าตอบแทนใบประกอบวิชาชีพครู
ค่าตอบแทนใบประกอบวิชาชีพครู ไม่มีกฏหมายใดๆ รองรับว่าจะได้เท่าไหร่ต่อเดือน แต่ที่พอมองเห็นอยู่ในปัจจุบัน ในทางราชการเขาใช้คำว่า "ค่าวิทยฐานะ"  ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่ง ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พศ.2547  ซึ่งระบุตอนหนึ่งไว้ว่า 

วิทยฐานะข้าราชการครูที่มีใบประกอบวิชาชีพครู
  • ครูเชี่ยวชาญพิเศษ   คศ.5  เงินวิทยฐานะ   15,600 บาท/เดือน
  • ครูเชียวชาญ           คศ.4  เงินวิทยฐานะ    9,900 บาท/เดือน
  • ครูชำนาญการพิเศษ  คศ.3  เงินวิทยฐานะ    5,600 บาท/เดือน
  • ครูเชียวชาญพิเศษ    คศ.2  เงินวิทยฐานะ    3,500 บาท/เดือน
วิทยฐานะศึกษานิเทศน์มีใบประกอบวิชาชีพ 
  • ศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญพิเศษ     เงินวิทยฐานะ   15,600 บาท/เดือน
  • ศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ             เงินวิทยฐานะ    9,900 บาท/เดือน
  • ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ   เงินวิทยฐานะ    5,600 บาท/เดือน
  • ศึกษานิเทศก์ชำนาญการ           เงินวิทยฐานะ    3,500 บาท/เดือน 
วิทยฐานะผู้บริหารสถานศึกษามีใบประกอบวิชาชีพ
  • ผู้อำนวยการเชี่ยวชาญพิเศษ       เงินวิทยฐานะ   15,600 บาท/เดือน
  • ผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ                เงินวิทยฐานะ    9,900 บาท/เดือน
  • ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ     เงินวิทยฐานะ    5,600 บาท/เดือน
  • ผู้อำนวยการชำนาญการ               เงินวิทยฐานะ    3,500 บาท/เดือน
  • รองผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ            เงินวิทยฐานะ    9,900 บาท/เดือน
  • รองผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ  เงินวิทยฐานะ    5,600 บาท/เดือน
  • รองผู้อำนวยการชำนาญการ          เงินวิทยฐานะ    3,500 บาท/เดือน
ค่าวิทยฐานะนี้ไม่เกี่ยวกับเงินเดือนของครูแยกออกจากกัน ซึ่งก็เปรียบเสมือนค่าตอบแทนใบประกอบวิชาชีพครูนั้นเอง  แต่รัฐจำกัดให้เฉพาะ "ผู้ที่เป็นข้าราชการครูหรือผู้ที่เป็นบุคลากรทางการศึกษาของรัฐ" เท่านั้น 

ด้วยเงินค่าวิทยะฐานะต่อเดือนจำนวนมากนี้เอง ปัจจุบันจึงทำให้ครูของรัฐต้องวุ่นวายอยู่กับการเลื่อนวิทยฐานะมากกว่าการสอนเด็ก รัฐต้องนั่งคิดหาหลักเกณฑ์ต่างๆ กันใหม่อยู่เรื่อยจนครูรัฐบาลสับสนไปหมด    

ทำไม? ครูคนอื่นจึงไม่มีค่าตอบแทนใบประกอบวิชาชีพ
เงินภาษีทั้งหลายที่รัฐเก็บได้ จัดสรรส่วนหนึ่งนำไปจ่ายค่าวิทยฐานะให้ครูและบุลคลากรทางการศึกษาเฉพาะที่เป็นข้าราชการของรัฐจำนวนมาก โดยไม่ได้คำนึงถึงครูเอกชนหรือครูประเภทอื่นๆ ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่และมีใบประกอบวิชาชีพครูเหมือนกัน อีกทั้งงบประมาณสำหรับการอบรมและพัฒนาครู ก็จำกัดเฉพาะครูของรัฐอีกต่างหาก ใช้เงินงบประมาณมากมายขนาดนี้แล้ว ครูของรัฐยังถูกกล่าวหาว่า "ไม่มีคุณภาพเสียอีก"  จึงมีคำถามว่า มันเกิดอะไรขึ้น?   

ผมไม่ได้หมายความว่า รัฐจะต้องรับภาระมาจ่ายค่าตอบแทนใบประกอบวิชาชีพให้กับครูเอกชน หรือครูสังกัดอื่นๆ เพราะมันอาจเป็นภาระมากเกินไป แต่รัฐก็ควรหามาตรการหรือแนวทางการส่งเสริม  

ทำอย่างไร? ผู้ที่มีใบประกอบวิชาชีพครูทั่วทั้งประเทศ ควรที่จะได้รับค่าตอบแทนใบประกอบวิชาชีพเหมือนกับสาขาวิชาชีพอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นครูของรัฐ ครูเอกชน หรือครูที่อยู่ในสังกัดอื่นใดก็ตาม อย่างเช่น
  • ออกกฏหมายหรือระเบียบว่าด้วย "การกำหนดอัตราการจ่ายค่าตอบแทนใบประกอบวิชาชีพครูในประเทศไทย"  ไม่ว่าจะเป็นครูของรัฐ ครูเอกชน หรือครูในสังกัดอื่นๆ
  • เปลี่ยน ค่าวิทยฐานะเดิมของข้าราชการครู ให้เป็น ค่าตอบแทน 
  • เพื่อไม่ให้เป็นภาระด้านงบประมาณของรัฐมากเกินไป รูัฐอาจกำหนดให้เงินอุดหนุนเป็นค่าตอบแทนใบประกอบวิชาชีพแก่ครูในโรงเรียนเอกชนหรือในสังกัดอื่นๆ  ในสัดส่วนใดสัดส่วนหนึ่ง เช่น รัฐ ร้อยละ 50 และโรงเรียนเอกชนออกเองร้อยละ 50 เป็นต้น ส่วนค่าตอบแทนครูที่เป็นข้าราชการ รัฐคงต้องจ่ายเอง 
ได้ครูที่มีคุณภาพทั่วทั้งประเทศ
  • หากทำเช่นนี้ได้ ผมว่าจะมีเด็กเก่งๆ หันมาเรียนเพื่อเป็นครูกันมากขึ้น เพราะหลังจากจบมีใบประกอบวิชาชีพครูแล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นข้าราชการครูของรัฐก็ได้  สามารถไปสอนอยู่ในโรงเรียนเอกชน หรือโรงเรียนในสังกัดอื่นใดก็ได้ ดังเช่น อาชีพแพทย์ เภสัช วิศวกร เป็นต้น 
  • ใบประกอบวิชาชีพครูจะมีคุณค่าสำหรับครูทุกคน และครูเหล่านั้นจะต้องพึงรักษาความเป็นมืออาชีพอยู่เสมอด้วยเกณฑ์การวัดและประเมินผลอย่างเข้มข้นในกระบวนการขอต่อใบอนุญาตของคุรุสภา (เหมือนกับองค์กรวิชาชีพอื่นๆ ที่เขาทำ)
  • ที่สำคัญที่สุด เราจะได้ครูที่มีคุณภาพทั่วทั้งประเทศ เพราะเขาต้องพัฒนาความเป็นมืออาชีพของเขาอยู่เสมอเพื่อแลกกับค่าตอบแทนใบประกอบวิชาชีพที่ได้รับ 
ที่นำเสนอมานี้ เป็นเพียงแค่แนวคิดเบื้องต้น ถ้าคิดว่ามีความเป็นไปได้ คงต้องมีการศึกษากันอย่างละเอียด จากเจ้าของกระทรวง ทบวงกรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ  เพื่อให้มีความรอบคอบ มีการจัดวางกฏเกณฑ์อีกหลายขั้นตอน   แต่ก็ดีกว่าไม่คิดอะไรเลย...

หากเราคิดเหมือนเดิมๆ แล้วอยากจะได้สิ่งใหม่ 
ผมว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ 

******************************* 
ชาตชยา ศึกษิต : 22 ก.ค.2560 

ที่มาข้อมูล
  • วิกีพีเดีย. ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ. (https://th.wikipedia.org/wiki/ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ) สืบค้นเมื่อ 22 ก.ค.2560
  • พ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่ง ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พศ.2547 

ไม่มีความคิดเห็น: