พลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน พระราชโอรส องค์ที่ 35 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงสิ้นพระชนม์ในวันที่ 14 กันยายน 2479 ขณะพระชนมายุเพียง 55 ปี วันนี้ทางราชการจึงกำหนดให้เป็น "วันบุรฉัตร" ผมขอสรุปประวัติของพระองค์ฯ พอสังเขปเพื่อทราบดังนี้
- พระชนมายุ 20 ปี เป็นร้อยตรี เหล่าทหารช่าง หลังจากนั้นทรงเสด็จไปศึกษาที่ประเทศฝรั่งเศสและประเทศอังกฤษ
- พระชนมายุ 23 ปี กลับมาเป็นพันตรีเหล่าทหารช่าง
- พระชนมายุ 27 ปี ดำรงตำแหน่งจเรทหารช่าง (พระองค์แรก)
- พระชนมายุ 36 ปี พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เป็น "ผู้บัญชาการรถไฟ" อีกตำแหน่งหนึ่ง นอกเหนือจากหน้าที่ทางราชการทหาร พระองค์ได้บริหารงานด้วยพระปรีชาสามารถทรงนำวิชาการสมัยใหม่ เข้ามาใช้ ก่อให้เกิดประโยชน์แก่กิจการรถไฟอย่างมาก จนได้รับการขนานพระนามว่า " พระบิดาแห่งกิจการรถไฟสมัยใหม่ "
- พระชนมายุ 41 ปี ทรงขอพระบรมราชานุญาตในการออกพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟ และทางหลวง พุทธศักราช 2465 เพื่อเป็นการวางหลักการบริหารกิจการรถไฟของประเทศให้มีระเบียบยิ่งขึ้น
- พระชนมายุ 45 ปี ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงพาณิชย์และคมนาคมและเป็นนายกสภาเผยแผ่พาณิชย์
- พระชนมายุ 49 ปี ทรงริเริ่มนำวิทยาการด้านการสื่อสารเข้ามาใช้การพัฒนาประเทศ ทรงตั้งเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียงทดลองขนาดเล็ก และสั่งเครื่องวิทยุกระจายเสียงคลื่นสั้นเข้ามาทดลอง ทรงเปิดการกิจการส่งวิทยุกระจายเสียงเป็นเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2473 ใช้ชื่อสถานีว่า "สถานีวิทยุกรุงเทพฯ ที่พญาไท" และถือว่าเป็นบุคคลแรกของสยาม ที่ต้องการให้ประเทศสยามมีการส่งเทเลวิชั่น (วิทยุโทรทัศน์) ขึ้นเป็นครั้งแรก แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากสยามได้เปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475
- พระชนมายุ 49 ปี ทรงก่อตั้งสโมสรโรตารีแห่งแรกในประเทศไทยขึ้น เรียกชื่อว่า "สโมสรโรตารีกรุงเทพ"
- พระชนมายุ 50 ปี ทรงดำรงตำแหน่งอภิรัฐมนตรีสภา ทำหน้าที่ปรึกษาราชการในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 7
- พระชนมายุ 52 ปี ทรงลาออกจากราชการและเสด็จไปประทับ ณ ประเทศสิงคโปร์ พร้อมกับครอบครัว (น่าจะเป็นผลพวงมาจากการยึดอำนาจและเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ พ.ศ.2475 ของคณะราษฎร)
- พระชนมายุ 55 ปี ทรงสิ้นพระชนม์ด้วยโรคพระทัยวาย ณ โรงพยาบาลในประเทศสิงค์โปร์
(ท่านใดต้องการอ่านพระราชประวัติโดยละเอียด สามารถค้นหาได้จากอินเตอร์เน็ต)
น่าเสียดายเวลาที่เสียไป
นับตั้งแต่วันที่ พระองค์ท่านและครอบครัว ต้องเสด็จออกจากประเทศไทยและทรงสิ้นพระชนม์ที่ประเทศสิงค์โปร์ ถึงปัจจุบันแล้วเป็นเวลา 81 ปี แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่พระองค์ท่านได้ทรงริเริ่มและวางรากฐานไว้ หลายกิจการไม่ได้รับการพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าตามที่ควรจะเป็น ดังเช่น กิจการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นต้น
ดังนั้น "วันบุรฉัตร" จึงควรเป็นวันที่หน่วยงานทั้งหลายที่เกี่ยวข้อง ต้องหันมาพิจารณาทบทวนดูว่า "สิ่งใดที่ขาดหายไป" จึงทำให้เจตนารมย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 5,6 และ 7 ที่ทรงรับสั่งผ่านทางพลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากรฯ จึงไม่ประสบความสำเร็จ
มีคนกล่าวว่า "ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศกำลังพัฒนา" แต่
"ประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่ได้แค่นี้"
คำกล่าวนี้ เห็นท่าจะจริง....
********************************
ชาติชาย คเชนชล : 14 ก.ย.2560
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น