วันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2561

ํYou can't develop Thailand alone but we can.

ผมไม่ทราบว่าตนเอง รู้สึกสนใจเรื่อง "การเมือง" ตั้งแต่เมื่อใด  เดิมก็คิดว่ามันเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริงๆ แล้ว ผมคิดผิด แท้จริงมันเกี่ยวพันกับตัวเรา มาตั้งแต่เกิดจนกระทั่งถึงปัจจุบัน


ตอนเด็กๆ ผู้ใหญ่และครูบาอาจารย์ เคยเล่าให้ฟังถึงคุณงามความดีของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม , จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และอีกหลายคนให้ฟัง แต่พอโตขึ้นมา ผมลองศึกษาประวัติของท่าน จากหนังสือและเอกสารต่างๆ ในหลากหลายแง่มุุม  ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่อย่างที่ท่านเล่า 

คณะราษฎร ที่ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศไทย เมื่อ พ.ศ.2475 ดูเหมือนจะเป็นการ Start up ประเทศไทยใหม่เพื่อความศิวิไลซ์ในระบอบการปกครองที่เรียกว่า "ประชาธิปไตย" จนล่วงมาบัดนี้ รวม 86 ปีแล้ว ผมคิดว่ามันไม่ไปถึงไหนเลย  "อำนาจไม่เคยอยู่ในมือประชาชนอย่างแท้จริง  ส่วนอำนาจที่แท้จริงอยู่ในมือของกลุ่มคนที่ได้ขึ้นมาปกครอง"  

เหตุการณ์รัฐประหารที่ผมพอจะจำได้ เพราะเริ่มโตแล้ว
  • 14 ต.ค..2516 ตอนนั้นผมยังเรียนชั้น ม.ศ.1  เกิดเหตุการณ์ "วันมหาวิปโยค" เรียกร้องรัฐธรรมนูญ ขับไล่ จอมพลถนอม กิตติขจร  จอมพลประพาส จารุเสถียร และพันเอกณรงค์ กิตติขจร เหตุการณ์นี้ ผมคอยฟังข่าวอย่างตื่นเต้น แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมใดๆ  ห้วงเวลานั้นทราบว่า เวลาทหารจะเดินทางไปไหนมาไหน ไม่กล้าแต่งเครื่องแบบ เพราะกลัวจะโดนประชาชนชนรุมด่ารุมทำร้าย  
  • 6 ต.ค.2519 ผมเริ่มเข้าโรงเรียนทหาร เกิดเหตุการณ์ต่อต้านการเดินทางกลับประเทศไทยของ จอมพลถนอม กิตติขจร และเกิดการรัฐประหาร นำโดย พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ ยึดอำนาจจากรัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เรียกตัวเองว่า "คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน" ตอนนั้นผมก็ได้แต่คอยฟังข่าวสาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข่าวจากทางกองทัพฝ่ายเดียว ข่าวฝ่ายประชาชนไม่เคยทราบเลย และผมไม่ได้มีส่วนร่วมใดๆ ได้แต่เตรียมพร้อมอยู่ในกรมกอง 
  • 26 มี.ค.2520 เกิดเหตุการณ์กบฎพลเอกฉลาด หิรัญศิริ  ตอนนี้ ผมเริ่มตั้งคำถามในใจว่า ทำไม พลเอก ฉลาดฯ จึงพยายามจะทำการปฏฺิวัติฯ  บ้านเมือง มันเกิดอะไรขึ้น แต่เผอิญท่านทำไม่สำเร็จก็เลยถูกตราหน้าว่าเป็น "กบฏ"
  • 20 ต.ค.2520 เกิดการรัฐประหารอีกครั้ง นำโดย พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ เข้ายึดอำนาจรัฐบาล นายธานินทร์ กรัยวิเชียร 
  • 23 ก.พ.2534 การรัฐประหาร นำโดย พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ยึดอำนาจรัฐบาลจาก พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ซึ่งเรียกคณะตัวเองว่า คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ" (รสช.) 
  • พ.ศ.2535 เกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ นำโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ต่อต้าน พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีที่มาจากคนนอก   
เหตุการณ์ที่ผมมีส่วนร่วมโดยตรง 
การรัฐประหารที่กล่าวมา ส่วนใหญ่ ผมจะถูกสั่งให้แค่เตรียมพร้อมอยู่ในกรมกอง ส่วนเหตุการณ์ที่ผมเข้าไปมีส่วนร่วมโดยตรง มีดังนี้ 
  • พ.ศ.2548 เกิดปรากฏการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กลุ่มคนเสื้อเหลือง) นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล  ลุกขึ้นมาขับไล่รัฐบาลและระบอบทักษิณ งวดนี้ผมแอบไปร่วมชุมนุมด้วยครับ   
  • 19 ก.ย.2549 เกิดการปฏิวัติ นำโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ยึดอำนาจรัฐบาลรักษาการ จาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  เรียกตัวเองว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) 
  • พ.ศ.2550 เกิดการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “กลุ่มคนเสื้อแดง” ใช้วาทะกรรม "ไพร่และอำมาตย์" เป็นเงื่อนไข   
  • พ.ศ.2556 เกิดปรากฏการณ์ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ครั้งนี้ ผมก็แอบไปร่วมเป่านกหวีดด้วยเหมือนกัน 
  • 22 พ.ค.2557 เกิดการรัฐประหาร นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเรียกคณะตัวเองว่า  คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

จากวันนั้น ถึงวันนี้ ประเทศไทยได้อะไร
จากการทำรัฐประหารของบรรดาขุนพลทหารทั้งหลาย ตั้งแต่ พันเอกพระยาทรงสุรเดช (เมษายน 2476) พลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา (มิถุนายน 2476)  จอมพลผิน ชุณหะวัณ (2490 และ 2491) จอมพลแปลก พิบูลสงคราม (2494) จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ (2500 และ 2501) จอมพลถนอม กิตติขจร · (2514)  พลเรือเอกสงัด ชลออยู่ (2519 และ 2520) พลเอกสุนทร คงสมพงษ์ (2534) พลเอกสนธิ บุณยรัตกลิน (2549) และคนสุดท้ายคือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (2557) รวมแล้ว  10 ขุนพล  

หากเราลองนั่งสงบจิตคิดทบทวนดูด้วยใจเป็นกลางว่า
หลังจากรัฐประหารแล้ว ประเทศไทยได้อะไรบ้าง?  

ในความเห็นส่วนตัว ผมว่าคิดว่ามันเป็นการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในช่วงเวลานั้นๆ  แต่กลับไม่ส่งผลต่อการพัฒนาบ้านเมืองในระยะยาวและมีความยั่งยืนแต่อย่างใด ประเทศไทยจึงไม่ได้พัฒนาไปถึงไหนเสียที ผิดกับประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศที่เราเคยดูแคลนเขา กลับพัฒนานำหน้าเราไปกันเกือบหมดแล้ว 

ฤา มันเพียงเป็นแค่วงจรเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา มีอำนาจแล้วก็ถูกชิงอำนาจ เป็นงูกินหางเช่นนี้ตลอดไป ประเทศเราไม่เคยหลุดพ้นจากมันเลย และสถานการณ์การเมืองขณะนี้  ก็กำลังจะเข้ารูปเดิมอีกแล้ว  ที่กระทำรัฐประหาร...แล้วเสียของ 



ที่มาของภาพ http://www.lazerface.net/justiceleaguerunbkk/

You can't Develop Thailand alone.
ผมว่า คนไทยทุกคนล้วนรักประเทศไทย แต่เราไม่เคยพยายามให้ทุกคนได้รับโอกาสและมีส่วนร่วม มาช่วยกันคิดเพื่อพัฒนาประเทศของเราอย่างจริงจัง  ผู้ที่มีอำนาจมักมองเห็นว่าความคิดของตนเองและพรรคพวกนั้นดีและถูกต้องเสมอ ไม่ค่อยยอมรับฟังข้อคิดเห็นจากคนอื่นๆ  หากใครคิดต่าง ถือว่าไม่ใช่พวก  ผู้มีอำนาจมักชอบผูกขาดว่า "วิธีของเขาเท่านั้น ที่จะพัฒนาประเทศไทยได้" รัฐธรรมนูญไม่รู้กี่ฉบับ ถูกฉีกทิ้งและเขียนขึ้นใหม่จากผู้มีอำนาจใหม่เสมอ  แล้วมันจะเป็นเช่นนี้เรื่อยไปจนถึงเมื่อใดไม่ทราบได้       
ประเทศไทยมีคนเก่งอยู่มากมาย ในทุกสาชาวิชาชีพ เราจะทำอย่างไร จะให้คนไทยเหล่านั้น ได้มีโอกาสและมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศไทยอย่างแท้จริง    ไม่ใช่เอาแต่พรรคพวกและคนใกล้ตัวมานั่งบริหารประเทศ 

คุณไม่สามารถพัฒนาประเทศไทยได้เพียงลำพังหรอก เราต้องช่วยกัน
You can't develop Thailand alone but we can.

******************************
ชาติชาย คเชนชล : 25 ม.ค.2561 

ไม่มีความคิดเห็น: