วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562

นั่งรถไฟไปมาเลเซีย ตอนที่ 5 (จบ) : จังโหลน-ด่านสะเดา-หาดใหญ่-ราชบุรี

ต่อจากตอนที่ 4 คาเมรอนไฮแลนด์

วันเสาร์ที่ 29 ธ.ค.2561 หลังจากลงจากที่ราบสูงคาเมรอน พวกเรานั่งรถยาวอีกเช่นเคย ระยะทางประมาณ 441 กม. จุดหมายสุดท้ายวันนี้ คือ สถานีรถไฟหาดใหญ่ ระหว่างเดินทางตั้งใจแวะช้อปปิ้งร้านสินค้าปลอดภาษีที่ด่านจังโหลน (Changloon) ฝั่งมาเลเซียก่อนกลับเข้าสู่ประเทศไทยที่ด่านสะเดา    ช้อบปิ้งต่อตลาดกิมหยง อ.หาดใหญ่ รับประทานอาหารเย็น แล้วรอขึ้นรถไฟกลับราชบุรี ที่สถานีชุมทางหาดใหญ่ เวลา 18.45 น.

Cameron Highland-ด่านจังโหลน-ด่านสะเดา-สถานีรถไฟหาดใหญ่
ระยะทาง  441 กม.
พวกเราแวะรับประทานอาหารกลางวันระหว่างทางที่ ร้าน Bali Thai รัฐเปรัก   คนเยอะมากครับเพราะใกล้ปีใหม่ มีคนไทยเข้าไปเที่ยวมาเลเซียกันมาก ทั้งรถตู้ รถบัส ส่วนคนมาเลเซียก็เดินทางเข้ามาประเทศไทยเพื่อเฉลิมฉลองปีใหม่ให้ตัวเองเช่นกัน โดยเฉพาะที่ อ.หาดใหญ่ ดังนั้นการจราจรบนถนนสายหลักที่เราใช้เดินทางจะหนาแน่นมาก  

ร้านบาหลี ไทย รัฐเปรัก
ด่านจังโหลน
หลังจากอิ่มท้อง พอขึ้นรถได้ผมก็เริ่มงีบหลับ มาตื่นอีกทีที่ ด่านจังโหลน ก็เกือบ 16.00 น. รถบัสของเราต้องแวะเข้าไปทำพาสปอร์ตและการประกันรถเพื่อเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยก่อน ต่อจากนั้นจึงพาพวกเราไปยังด่านจังโหลนเพื่อดำเนินกรรมวิธีผ่านแดนออกจากประเทศมาเลเซีย  

ที่ด่านจังโหลนนี้ กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างขยายด่านฯ ให้กว้างขวางและใหญ่โตขึ้น แลดูมาตรฐาน ระบบการตรวจสอบการผ่านแดนจัดได้ดี แยกคน แยกรถออกจากกัน พวกเราลงจากรถบัสเดินไปตรวจประทับตราเพื่อออกจากมาเลเซีย เร็วมากครับ ส่วนรถบัสก็แยกกันไปตรวจอีกทาง หลังจากนั้น ทั้งรถทั้งคน ก็วนมาเจอกัน  เดินทางไปช้อบปิ้งต่อยัง ร้านสินค้าปลอดภาษี Bukit Kayu Hitam  ก่อนเข้าสู่ประเทศไทย ระหว่างนั้น ฝนตกลงมาพอดี หนักมาก แต่สักพักก็หายไป

ไกด์บอกว่าให้เวลาช้อบปิ้งไม่เกิน 30 นาที เพราะกลัวจะไปไม่ทันรถไฟที่หาดใหญ่ เนื่องจากยังต้องผ่านด่านสะเดา และฝ่ารถติดในเมืองหาดใหญ่อีก พวกเราจึงต้องรีบช้อปปิ้งกันแบบเร่งรีบ เงินริงกิตที่เหลือแลกกลับคืนเป็นเงินไทยได้ที่นี่เลย  

ด่านสะเดา
ที่ด่านสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา  นี้ ดูค่อนข้างซอมซ่อไปเลยหากเทียบกับด่านจังโหลนของมาเลเซีย ระบบตรวจคนและยานหาพนะผ่านแดนก็ค่อนข้างล่าช้า อีกทั้งหน้าตาผู้ตรวจหนังสือเดินทางของไทย แลดูขมึงทึง ไม่ยิ้ม (สยาม) เอาเสียเลย  โชคดีที่ตอนนั้น คนเข้าเมืองไทยน้อย พวกเราจึงไม่ต้องรอคิวนานนัก กว่าจะเสร็จเรียบร้อยได้ขึ้นรถ ก็ปาเข้าไปเกือบ 17.30 น. พวกเรารีบเร่งออกเดินทางต่อไปยังจุดหมาย คือ สถานีรถไฟหาดใหญ่ ซึ่งต้องให้ทันในเวลา 18.45 น. พวกเรามีเวลาเหลือเพียง 1 ชม.15 นาที ซึ่งยังเหลือระยะทางอีก 60 กม. และยังต้องเสี่ยงกับสภาพจราจรที่ติดขัดใน อ.สะเดา และ อ.หาดใหญ่  อีก....ใจเริ่มไม่ค่อยดี ว่าจะทันรถไฟหรือไม่

นาทีสุดท้าย
พวกเรานั่งไม่เป็นสุข ลุ้นระทึกตลอดเวลาว่าจะไปทันรถไฟหรือไม่ ความคาดหวังที่จะแวะช้อปปิ้งตลาดกิมหยงและรับประทานอาหารเย็นที่หาดใหญ่ เลิกคิดได้เลย ตอนนี้แค่ภาวนา ขอให้ไปทันรถไฟก็พอ 

เวลา 18.42 น. ดู GPS แล้วยังเหลือระยะทางอีก 1 กม. จะถึงสถานีรถไฟหาดใหญ่ แต่รถบัสพวกเรายังติดไฟแดงอยู่เลย แย่แน่ๆ แต่ในที่สุดพวกเราก็ไปถึงใน "นาทีสุดท้าย" พอดี  รีบลงจากรถบัส ลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่อย่างทุลักทุุเล ก้มหน้าก้มตาวิ่งไปขึ้นรถไฟ ท่ามกลางเสียงของเจ้าหน้าที่รถไฟตะโกนบอกว่า "เร็วๆ หน่อยครับ รถไฟจะออกแล้ว"  โชคดีครับ พวกเราทันรถไฟ รถไฟออกเวลา 18.45 น.พอดี 

ยังนึกไม่ออกว่า หากพวกเราตกรถไฟในวันนั้น พวกเราจะกลับราชบุรีอย่างไรดี อาจจะต้องนอนหาดใหญ่อีก 1 คืน แล้วค่อยกลับในวันรุ่งขึ้น 

พวกเราเดินทางกลับด้วยรถไฟสายด่วนพิเศษ"ทักษิณารัถย์" รหัสขบวน 32 หาดใหญ่-กรุงเทพฯ ถึงสถานีรถไฟราชบุรีด้วยความปลอดภัย ในตอนเช้าของวันอาทิตย์ที่ 30 ธ.ค.2561 เวลา 08.13  น.ตามกำหนด

ขอขอบคุณเพื่อร่วมเดินทางที่น่ารักทุกคน ถึงแม้จะต่างวัยกันไปบ้าง พวกเราก็เข้ากันได้ดี หวังว่าคงจะได้เที่ยวร่วมกันอีกในโอกาสต่อไป  และที่จะลืมขอบคุณไม่ได้ คือ เกสรทัวร์ ที่คอยดูแลพวกเราเป็นอย่างดีตลอดการเดินทาง


ของฝากจากมาเลเซีย (ยังงงๆ อยู่ ว่าหอบหิ้วมาได้อย่างไร)

**************************    

ไม่มีความคิดเห็น: