วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ปลาตะเพียนสานของยาย

เมื่อเย็นวานนี้ ผมและภรรยาได้ไปเดินซื้อของที่ตลาดโคยกี๊ ราชบุรี ริมแม่น้ำแม่กลอง  รู้สึกว่ามีของขายน้อยลงกว่าเมื่อก่อน  ผู้คนก็แลดูบางตา อาจเป็นเพราะอยู่ในช่วงฤดูฝนก็ได้จึงทำให้เป็นเช่นนี้ 

ระหว่างที่เดินอยู่นั้น ผมได้เดินตามหลัง ยายสูงอายุคนหนึ่ง หลังโกงเดินกระย่องกระแย่ง เร่ขายพวกตั๊กแตน ปลาตะเพียน ซึ่งสานมาจากใบตาล สีของตั้กแตนและปลาตะเพียนออกจะดูเหลืองซีดไม่เขียวแล้ว คงเพราะขายมาหลายวัน แต่ยังขายไม่ได้  ผมตั้งใจจะแอบถ่ายรูปแกไว้ พอดีแกหยุดเดินแล้วหันไปซื้อน้ำดื่ม แกคงจะหิวน้ำ ในมือแกก็กำธนบัตรใบละ 20 บาท ที่ยับยู่ยี่และเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ  ผมแอบถ่ายรูปยายแกไว้ได้พอดี 

หลังจากนั้น ผมรีบเดินเข้าไปหายายทันที ด้วยความรู้สึกสงสารขึ้นมาจับใจ และบอกยายว่า "ยาย...เดี๋ยวผมเลี้ยงน้ำยายเอง" ผมควักเงินจ่ายค่าน้ำดื่มแทนยายไป 12 บาท 

ยายแกกล่าวขอบใจผมมาก 
แล้วแกก็หยิบปลาตะเพียนสานให้ผม 1 พวง 
ผมก็บอกยายแกว่า "ผมไม่เอาหรอกครับ" 

แต่ยายแกกลับบอกว่า
"ทีหลานยังให้ยายได้  ยายก็ให้หลานบ้างไม่ได้หรือ  ยายให้จริงๆ"
แล้วแกก็พยายามคะยั้นคะยอที่จะให้ผมให้ได้  จนผมต้องยอมรับปลาตะเพียนสานของแก 

ผมบอกต่อว่า "แล้วยายจะคุ้มหรือครับ ผมไม่รู้ปลาตะเพียนสานพวงนี้ มันราคาเท่าไหร่ อาจจะมากกว่าเงิน 12 บาทที่ผมเลี้ยงยายก็ได้"  ยายตอบกลับมาว่า "ต้นทุนไม่เท่าไหร่หรอกหลานเอ๋ย....เพราะยายทำเองกับมือ" ผมแอบถามต่อว่ายายมาจากไหน ยายแกตอบว่า "ยายมาจากสุพรรณบุรี"

ผมรีบลายายและเดินจากมาทันทีพร้อมกับปลาตะเพียนพวงนั้น เพราะผมไม่อยากฟังเรื่องราวของยายต่อ ผมกลัวจะได้ยินเรื่องราวที่มันจะทำให้จิตใจหดหู่ เช่น

ลูกหลานมันมีครอบครัวกันไปหมดแล้ว...ยายจึงอยู่คนเดียว
หรือ ยายไม่มีลูก ยายไม่มีผัว ยายอยู่ตัวคนเดียว....
หรือ พวกยายมากันทั้งหมู่บ้าน...เดินทางขายของเร่เรื่อยไปตามจังหวัดต่างๆ...พอได้เงินเก็บสักก้อนก็กลับบ้านทีหนึ่ง
หรือ...  หรือ..... หรือ.....ฯลฯ

เดินต่อมาอีกไม่ไกลนัก เราสองคนพบกับเด็กอายุประมาณสองสามขวบคนหนึ่งกำลังร้องไห้งอแง ร้องจะซื้อของเล่นที่วางขายอยู่ข้างทาง  ผมสังเกตแล้วเห็นว่าพ่อแม่ของเด็กคนนั้น น่าจะไม่ค่อยมีเงินมากนักที่จะซื้อของเล่นชิ้นนั้น และเขากำลังพยายามหลอกล่ออธิบายให้ลูกฟังต่างๆ นาๆ ว่าอย่าไปซื้อ มันไม่จำเป็น  

ผมและภรรยา จึงมอบ "ปลาตะเพียนสานของยาย" ให้แก่เด็กคนนั้น  เด็กดีใจและหยุดร้องไห้ทันที พ่อแม่ของเด็กก็กล่าวขอบคุณผมและภรรยาเป็นการใหญ่  หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินจากไป   

วันนี้ ผมและภรรยารู้สึกดีใจที่เราได้ "ให้"  อะไรหลายอย่างแก่คนที่เราพบ
เราสามารถทำให้พวกเขามีความสุข  แม้ว่าเราจะไม่รู้จักเขาเลยก็ตาม   

You can get everything in life you want,
if you help enough other people get what they want.
คุณจะได้ทุกสิ่งในชีวิตที่ต้องการ...
เพียงคุณช่วยเหลือคนอื่น ให้ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ

ขอบคุณ "ปลาตะเพียนสานพวงนั้นของยาย" ที่สามารถทำให้เด็กคนหนึ่งมีรอยยิ้มแห่งความสุขได้


*****************************

ไม่มีความคิดเห็น: