วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ประเทศไทย...วันนี้ ไม่มีใครเชื่อใคร


ช่วงเดือนกว่าๆ มานี้ ผมไม่ค่อยมีเวลาติดตามข่าวสารบ้านเมืองแบบเจาะลึกมากนัก ดูผ่านๆ แบบพอรู้ เพราะติดภารกิจสำคัญในการสอนคนอย่างต่อเนื่อง เวลาว่างไม่พอให้เข้าถึงข่าวสารข้อมูล  แต่ผมก็มีความรู้สึกว่านักการเมืองกับผู้หลักผู้ใหญ่ในประเทศไทย บ้านของเรานี้ ทำไมชอบสร้างเรื่องราวให้วุ่นวายกันเสียเหลือเกิน

ที่มาของภาพ INNNEWS
เริ่มตั้งแต่รัฐบาลจะพยายามจะประชุมสภาในวาระ 3 เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ และพยายามผลักดัน พ.ร.บ.ปรองดอง เข้าสภา จนกระทั่งมวลชนพันธมิตรและประชาชนอีกหลายกลุ่มต้องออกมาปิดล้อมรัฐสภา จนรัฐบาลต้องยอมเลื่อนการประชุม ศาลรัฐธรรมนูญก็สั่งให้รัฐสภาชะลอการประชุมแก้ไขรัฐธรรมนูญไปก่อน เพื่อรอคำวินิจฉัยว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ตามที่มีผู้ยื่นคำร้องมา แต่ท่าทีทางพรรคเพื่อไทย ผู้ซึ่งกุมเสียงข้างมากในสภากำลังจะไม่เชื่อศาลรัฐธรรมนูญ ตะแบงจะประชุมกันให้ได้ แถมอัยการสูงสุดยังออกมาเข้าข้างรัฐบาล แถลงว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีสิทธิ์สั่งชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะอัยการเองไม่ได้ยื่นคำร้องต่อศาล   ส่วนนักวิชาการและนักกฏหมายชื่อดังทั้งหลาย ก็ออกมาแสดงความเห็น แบบที่คนธรรมดาสามัญชนอย่างผมก็พอเข้าใจได้ว่า..เป็นพวกเห็บที่เห็นว่าสุนัขตัวไหนกำลังอ้วนและได้เปรียบ พวกฯ เหล่านี้ก็จะรีบไปเกาะ โดยไม่คำนึงถึงจรรยาบรรณในวิชาชีพของตัวเอง

แล้วมันจะเป็นอย่างไรกันต่อไปละครับ..ท่านผู้ทรงเกียรติทั้งหลาย

แก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จแล้ว
คนไทยจะเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง  ทุกคนจะมีความรักชาติ ศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ยิ่งชีวิต ข้าวปลาอาหาร และน้ำมันจะถูกลง การคอรัปชั่นจะหมดไป เด็กนักเรียนจะไม่ต้องมาอดข้าวประท้วงเพื่อให้ได้ที่นั่งเรียน ยาบ้า ยาไอซ์ ยาอี จะหมดไปจากประเทศไทย คดีอาชญากรรม เข่นฆ่ารายวันจะลดลง เกษตรกรและผู้ใช้แรงงานจะไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายทุน เศรษฐกิจของประเทศไทยจะดีขึ้น คนไทยจะเป็นเจ้าของเศรษฐกิจเอง ไม่ใช่แค่ "ขี้ข้าทางเศรษฐกิจ"

และหาก พ.ร.บ.ปรองดองผ่านสภาแล้ว
คนไทยจะไม่แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่ายอีก จะไม่มีคนของข้าหรือคนของเอ็ง คนไทยจะรักและสามัคคีกัน รวมกันปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ  ช่วยกันนำพาประเทศไทยสู่ความวัฒนาถาวร 

มันเป็นไปได้หรือครับ ผมไม่อยากให้ละเมอเพ้อพกกันไปเอง ประเทศไทยยังมีเรื่องเร่งด่วนให้ทำมากกว่านี้ตั้งหลายเรื่อง

ประเทศไทย...วันนี้ ไม่มีใครเชื่อใคร
ผมเคยกล่าวกับเพื่อนฝูง เวลาตั้งวงสนทนากันเสมอว่า "สักวันหนึ่งประเทศไทยจะไม่มีใครเชื่อใคร พอถึงจุดๆ หนึ่งประเทศไทยจะสูญเสียเอกราชทางเศรษฐกิจให้สังคมโลก" อย่างตัวอย่างประเทศในยุโรปที่เห็นกันอยู่ปัจจุบันนี้ และประเทศไทยของเราในวันนี้ ก็เห็นว่าได้ส่อเค้าลางให้เห็นแล้ว หนี้เงินกู้ล้นพ้นตัว จะใช้หนี้อีกกี่รัฐบาลถึงจะหมด เหตุผล ความถูกต้อง และความดีงาม ใช้ไม่ได้แล้วในสังคมไทย อำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการ ต่างกำลังไม่ยอมกันและไม่สามารถคานอำนาจกันได้  ตามที่คิดเอาไว้อย่างสวยหรูในอุดมคติ

เหตุเพราะกิเลสของคนมันหนา เพียงอยากได้ อยากมี อย่างเป็น มันก็ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา โดยไม่คำนึงถึงหลักแห่งความชอบธรรม หลักแห่งความมีคุณธรรมแต่อย่างใด

นักการเมืองชั่วช้า               กินเมือง
โกงชาติโกรธเคืองแค้น      ยิ่งล้น
ปรวงราษฎร์ร่ำหมดเปลือง  ชีวิต วิญญาณ
แม้วมุ่งผลาญชาติปล้น       หม่ำสิ้นสยามสวรรค์ ฯ
(จาก สยามอย่าสิ้นชาติ อย่าประมาททักษิณ@ โดย อังคาร กัลยาณพงศ์)

วันนี้ในส่วนตัวแล้ว ผมรู้สึกว่าไม่มีผู้หลักผู้ใหญ่สักคนในบ้านในเมือง ที่พอจะเป็นตรรกศิลาอันแข็งแกร่งได้   ข้าราชการเกือบทุกกระทรวงทบวงกรม ทำงานเพื่อประโยชน์ของนักการเมือง เจ้านายและตัวเอง มากกว่าประโยชน์ของประชาชน สถาบันกองทัพถูกนักการเมืองแทรกแซงกัดกินจนผุก่อน นักการเมืองท้องถิ่นจำนวนมากมายไร้ทั้งความรู้และความสามารถ ส่วนใหญ่เป็นแค่นายหน้าสัมปทานอำนาจของนักการเมืองระดับชาติ ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่คำนึงถึงแต่ผลประโยชน์เฉพาะหน้าของตัวเอง มากกว่าผลประโยชน์โดยส่วนรวมของประเทศชาติ

เหตุการณ์ที่วุ่นวายอยู่ในสภาและนอกสภาขณะนี้ เพราะไม่มีใครเชื่อใครอีกแล้ว
เพราะทุกคนมีความเชื่อที่ว่า

"ใครมีอำนาจ คนนั้นคือความถูกต้อง"

***********************
จุฑาคเชน : 10 มิ.ย.2555


ไม่มีความคิดเห็น: