วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

สัญญาณเริ่มปล้นประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเมื่อบ่ายวันที่ 22 ก.พ.2555 ว่าการออก พ.ร.ก.กู้เงิน และ พ.ร.ก.โอนหนี้ ของคณะรัฐมนตรีชุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ตามที่ฝ่ายค้าน และ สว.ร้องขอให้วินิจฉัย  ทำให้ผมคิดว่านี่คือ "สัญญาณการเริ่มปล้นประเทศไทยอย่างเป็นทางการ" ผมเคารพคำตัดสินของศาลท่านนะครับ  เพราะท่านวินิจฉัยประเด็นที่ว่า "ขัดหรือไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญเท่านั้น"  ไม่ได้วินิจฉัยว่าไอ้ พ.ร.ก.โอนหนี้เพื่อกู้เงิน ทั้ง 2 ฉบับนี้จะทำประเทศไทยเดินทางไปสู่ความหายนะในอนาคต  

ผมนึกถึงหลักการของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือ 3 ห่วง 2 เงื่อนไข ของพระองค์ฯ ท่านขึ้นมาทันที ลองทบทวนกันดูนะครับ



















  • ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่นการผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ
  • ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้นๆ อย่างรอบคอบ
  • การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและ การเปลี่ยนแปลงด้านการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล
ส่วน 2 เงื่อนไข คือการตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ระดับพอเพียงนั้น ต้องอาศัยทั้งความรู้และคุณธรรมเป็นพื้นฐาน ประกอบไปด้วย
  1. เงื่อนไขความรู้ หมายถึง ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังในการดำเนินชีวิตและการประกอบการงาน
  2. เงื่อนไขคุณธรรม คือ การยึดถือคุณธรรมต่างๆ อาทิ ความซื่อสัตย์สุจริต ความอดทน ความเพียร การมุ่งต่อประโยชน์ส่วนรวมและการแบ่งปัน ฯลฯ
ทุกคนพร้อมที่จะดำเนินชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ฯ 
แต่รัฐบาลชุดนี้ มันกลับทำตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง ชอบพูดแต่เรื่องนักลงทุนต่างชาติ, การส่งเสริมการลงทุน, มาตรการชดเชยภาษี, GDP, อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ, ดัชนีตลาดหุ้น ตลาดทุน,การแปรรูป ปตท. การบินไทย,การขึ้นราคาน้ำมันและพลังงาน, จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ, การออกเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้แก่ประชาชน, การขึ้นค่าแรง,การขึ้นเงินเดือน,บ้านหลังแรก, รถคันแรก, การกู้ยืมเงินเพื่ออนาคตประเทศไทย,การแก้ไขรัฐธรรมนูญ, พ.ร.บ.ปรองดอง, การเยียวยา ฯลฯ  แต่รัฐบาลไม่เคยพูดเรื่องไทยกำลังจะเสียดินแดนให้กับเขมร หรือการแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ได้ยินได้ฟังเลย...ตั้งแต่ขึ้นมาเป็นรัฐบาล


รัฐบาลนี้กำลังนำพาประเทศไทยของเราไปเป็นประเทศที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว นโยบายประชานิยมของรัฐบาล จะทำให้รัฐบาลใช้เงินเกินตัวเพื่อปรนเปรอประชาชนในระยะสั้น  (ไม่ใช่ประเทศที่ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเข็มทิศนำทาง)  จะเกิดการโกงกินคอรัปชั่น ฉ้อราษฎร์บังหลวงกันอย่างมโหฬารระหว่างนักการเมือง ข้าราชการ และนักธุรกิจ คนรวยจะยิ่งรวยขึ้น ข้าวจะยากหมากจะแพง คนไทยจะยากจนลงและเป็นหนี้สิ้นล้นพ้นตัวด้วยเงินกู้ บัตรเครดิต  หลายคนจะนั่งงอมืองอเท้า แบมือขอแต่ความช่วยเหลือจากรัฐบาล ในขณะที่พวกรัฐบาลจะเป็นเสมือนหนึ่งเทวดามาโปรดประชาชน  คนดีจะอยู่ในประเทศไทยไม่ได้  เพราะมีแต่คนไม่ดีมาปกครองบ้านเมือง ฯลฯ (สาธยายไม่หมดครับ) 


สรุปว่าในอนาคตประเทศไทยจะเสียเอกราช...ตกเป็นเมืองขึ้นทางเศรษฐกิจของบรรดาเหล่านายทุนข้ามชาติทั้งหลายในอีกไม่ช้านานนี้ ด้วยนโยบายประชานิยมของรัฐบาล ดังมีตัวอย่างให้เห็นเช่น กรีซ เป็นต้น 

สัญญาณการปล้นประเทศไทย
เริ่มต้นอย่างเป็นทางการเมื่อบ่ายวันที่ 22 ก.พ.2555
ยกต่อไปคือ "การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่"

************************

ไม่มีความคิดเห็น: