วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

ดวงอาทิตย์สีดำ


เมื่อวันที่ 20-22 ก.พ.2551 ผมได้พาลูกเสือเนตรนารีของโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์บูรณวิทยา ไปเข้าค่ายพักแรม ณ บริเวณค่ายหลวงบ้านไร่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบิดาของลูกเสือไทย ได้เคยเสด็จพระราชดำเนินมา ณ ที่แห่งนี้ ถึง 9 ครั้ง เพื่อมาทอดพระเนตรการซ้อมเสือป่า ระหว่างวันที่ 13 ก.พ.2462 ถึง 28 ก.พ.2467
ภาพดวงอาทิตย์สีดำนี้ ผมถ่ายย้อนแสงตอนพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน บริเวณที่ประดิษฐานพระราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เวาลาประมาณ 17.00 นาฬิกาเศษๆ ด้วยกล้องถ่ายรูปของโทรศัพท์มือถือ NOKIA รุ่น TV1100i
ไม่เข้าใจว่าทำไม ภาพนี้ดวงอาทิตย์จึงมีสีดำ ทั้งๆ ที่ตอนถ่ายแสงดวงอาทิตย์จ้ามาก หากท่านใดที่มีความรู้เรื่องการถ่ายภาพช่วยอธิบายให้ฟังด้วย จักขอบพระคุณยิ่ง

วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

e-learning LMS และ SCORM


เมื่อวันที่ 13 ก.พ.2551 ผมได้เข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการ "การสร้างสื่อบทเรียนออนไลน์" หลักสูตรที่ 1 เรื่อง กระบวนการเรียนการสอน e-learning กับการใช้งานระบบ LMS ณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต ซึ่งพอสรุปเนื้อหาสาระพอสังเขปมาฝากกันได้ดังนี้

e-learning
ความหมาย e-learning
1.เป็นการเรียนการเรียนในลักษณะใดก็ได้ ซึ่งใช้ถ่ายทอดเนื้อหาผ่านทางอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์
2.การเรียนผ่านทางอินเตอร์เน็ต ที่ผู้เรียนเรียนด้วยตนเอง ในเวลาและสถานที่ใดก็ได้ ซึ่งอาจมี ครู หรือผู้แนะนำ มาช่วยเหลือในบางกรณี
3.เป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองการเรียนในลักษณะทางไกล คือ เป็นรูปแบบการเรียนรู้ซึ่งผู้เรียนไม่จำเป็นต้องเดินทางมาเรียนใน สถานที่เดียวกัน หรือในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ผู้ใช้อาจไม่จำเป็นต้องเข้าถึงเนื้อหาตามลำดับที่ตายตัว โดยมีการออกแบบกิจกรรมซึ่งผู้เรียนสามารถโต้ตอบกับเนื้อหา รวมทั้งมีแบบฝึกหัดและแบบทดสอบให้ผู้เรียนสามารถตรวจสอบทำความเข้าใจได้

ดร.สุรสิทธิ์ วรรณไกรโรจน์ ผู้อำนวยการโครงการการเรียนรู้แบบออนไลน์แห่งสวทช. (http://www.thai2learn.com/) ได้ให้คำจำกัดความของ e-Learning ดังนี้
"การเรียนรู้แบบออนไลน์ หรือ e-learning เป็นการศึกษา เรียนรู้ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์อินเทอร์เน็ต(Internet) หรืออินทราเน็ต(Intranet) เป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ผู้เรียนจะได้เรียนตามความสามารถและความสนใจของตน โดยเนื้อหาของบทเรียนซึ่งประกอบด้วย ข้อความ รูปภาพ เสียง วิดีโอและมัลติมีเดียอื่นๆ จะถูกส่งไปยังผู้เรียนผ่าน Web Browser โดยผู้เรียน ผู้สอน และเพื่อนร่วมชั้นเรียนทุกคน สามารถติดต่อ ปรึกษา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันได้เช่นเดียวกับการเรียนในชั้นเรียนปกติ โดยอาศัยเครื่องมือการติดต่อ สื่อสารที่ทันสมัย(e-mail, web-board, chat) จึงเป็นการเรียนสำหรับทุกคน, เรียนได้ทุกเวลา และทุกสถานที่"


ประโยชน์ของ e-learning
- ยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนเนื้อหา และ สะดวกในการเรียนการเรียนการสอนผ่านระบบ e-Learning นั้นง่ายต่อการแก้ไขเนื้อหา และกระทำได้ตลอดเวลา เพราะสามารถกระทำได้ตามใจของผู้สอน เนื่องจากระบบการผลิตจะใช้ คอมพิวเตอร์เป็นองค์ประกอบหลัก นอกจากนี้ผู้เรียนก็สามารถเรียนโดยไม่จำกัดเวลา และสถานที่ -เข้าถึงได้ง่าย- ผู้เรียน และผู้สอนสามารถเข้าถึง e-learning ได้ง่าย โดยมากจะใช้ web browser ของค่ายใดก็ได้ (แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับผู้ผลิตบทเรียน อาจจะแนะนำให้ใช้ web browser แบบใดที่เหมาะกับสื่อการเรียนการสอนนั้นๆ) ผู้เรียนสามารถเรียนจากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใดก็ได้ และในปัจจุบันนี้ การเข้าถึงเครือข่ายอินเตอร์เน็ตกระทำได้ง่ายขึ้นมาก และยังมีค่าเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่มีราคาต่ำลงมากว่าแต่ก่อนอีกด้วย
- ปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยกระทำได้ง่ายเนื่องจากผู้สอน หรือผู้สร้างสรรค์งาน e-Learning จะสามารถเข้าถึง server ได้จากที่ใดก็ได้ การแก้ไขข้อมูล และการปรับปรุงข้อมูล จึงทำได้ทันเวลาด้วยความรวดเร็ว
- ประหยัดเวลา และค่าเดินทาง ผู้เรียนสามารถเรียนโดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใดก็ได้ โดยจำเป็นต้องไปโรงเรียน หรือที่ทำงาน รวมทั้งไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องประจำก็ได้ ซึ่งเป็นการประหยัดเวลามาก การเรียน การสอน หรือการฝึกอบรมด้วยระบบ e-Learning นี้ จะสามารถประหยัดเวลาถึง 50% ของเวลาที่ใช้ครูสอน หรืออบรม
LMSระบบจัดการบทเรียน (Learning Management System: LMS)LMS เป็นระบบจัดการเรียนการสอน Online เป็นซอฟต์แวร์เพื่อการบริหารจัดการเรียนการสอนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ระบบดังกล่าวมักจะประกอบไปด้วยเครื่องมืออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สอน ผู้เรียน และผู้ดูแลระบบ ผู้สอนสามารถนำเนื้อหาและสื่อการสอนขึ้นเว็บไซด์รายวิชาตามที่ได้ขอให้ระบบจัดไว้ให้โดยสะดวก ผู้เรียนเข้าถึงเนื้อหา กิจกรรมต่าง ๆ ได้โดยผ่านเว็บ ผู้สอนและผู้เรียนติดต่อสื่อสารกันได้ผ่านทางเครื่องมือการสื่อสารที่ระบบจัดไว้ให้ นอกจากนั้นแล้วยังมีองค์ประกอบที่สำคัญคือการเก็บบันทึกข้อมูลกิจกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนไว้บนระบบ เพื่อผู้สอนสามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อติดตามและประเมินผลการเรียนการสอนในรายวิชานั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบจัดการบทเรียนจะทำหน้าที่เหมือนกับโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ประกอบไปด้วยระบบจัดการด้านต่าง ๆ ที่สำคัญอยู่ 3 ระบบ คือ
1. ระบบจัดการหลักสูตร เป็นส่วนของการจัดการเกี่ยวกับระบบการเรียนการสอน ซึ่งเป็นหน้าที่ของครูผู้สอน ที่จะเป็นผู้จัดทำ ระบบจัดการหลักสูตรถือเป็นหัวใจสำคัญของ E-learning โดยประกอบไปด้วยระบบย่อย ๆ 2 ระบบ คือ
1.1 ระบบจัดการบทเรียน เป็นระบบการจัดทำบทเรียนโดยการศึกษา วิเคราะห์เนื้อหาจากหลักสูตรแล้ว กำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ จัดทำสื่อ จัดหาแหล่งข้อมูล แหล่งเรียนรู้ที่สำคัญและจำเป็น รวมถึงการตกแต่งหน้า WebPages ให้จูงใจในการเรียน
1.2 ระบบการวัดและประเมินการเรียนรู้ เป็นระบบการจัดทำแบบฝึกหัด แบบทดสอบสำหรับผู้เรียน เพื่อฝึกทักษะ ความสามารถในการคิด รวมถึงเป็นการวัดความรู้ ความคิดผู้เรียนที่ได้เรียนรู้จากบทเรียน เป็นการประเมินศักยภาพในการเรียนรู้ของผู้เรียน และผู้เรียนจะทราบผลการทดสอบทันทีหลังจากสอบเสร็จ หรืออาจมีการเฉลยคำตอบ หรือวิธีการอื่น ๆ แล้วแต่การออกแบบระบบของผู้สอน
2. ระบบส่งเสริมการเรียนรู้ เป็นระบบช่วยเหลือในการจัดทำบทเรียนของครูผู้สอน และช่วยในการเรียนรู้ของผู้เรียน ประกอบด้วยโปรแกรมจัดทำบทเรียน ที่ครูผู้สอนสามารถบรรจุข้อมูล เนื้อหา คำสั่งกิจกรรม และข้อมูลอื่น ๆ ลงในระบบได้โดยง่าย รวมถึงการใส่ภาพประกอบ ภาพเคลื่อนไหว วิดีโอ หรือไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งผู้เรียนก็สามารถสร้างเนื้อหาตามที่ครูผู้สอนกำหนดกิจกรรมไว้ได้ด้วยวิธีการเดียวกันกับครูผู้สอน นอกจากนี้ ระบบส่งเสริมการเรียนรู้ยังมีระบบการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนได้แก่ กระดานข่าว (Web board) กระดานสนทนา (Chat) จดหมายอิเลคทรอนิกส์ (e-mail)
3. ระบบจัดการข้อมูล เป็นระบบจัดการด้านฐานข้อมูล ซึ่งจะเก็บรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ของครูผู้สอน ข้อมูลของผู้เรียน สถิติต่าง ๆ เช่น สถิติการเข้ามาเรียน วันที่ เวลา ระยะเวลา ข้อมูลส่วนตัว รหัสผ่าน สถิติการทำแบบฝึกหัด แบบทดสอบ คะแนนที่ได้ ฯลฯ

SCORMปัญหาและแนวทางแก้ปัญหาของระบบ e-Learning-ไม่สามารถย้ายวิชา จาก LMS หนึ่ง ไปสู่ LMS อื่นได้
-ไม่สามารถนำเนื้อหา หรือ ส่วนของเนื้อหามาใช้ใหม่กับวิชาอื่นๆได้
-ไม่สามารถที่จะลำดับ(Sequence)เนื้อหาตามกลยุทธ์การเรียนที่
ปรับเปลี่ยนไปได้
-ไม่สามารถค้นหาเนื้อหา บทเรียน จากแหล่งเก็บต่างๆได้

เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว จึงได้มีการกำหนดมาตรฐานร่วมกัน เพื่อทำให้เป็น มาตรฐานกลางคือ (SCORM) ซึ่งย่อมาจาก
S = Sharable
C = Content
O = Object
R = Referrence
M = Model

มีผู้ผลิต Software หลายค่ายผลิต LMS และ CMS ออกมามากมาย อาทิ XEDU Moodle ฯลฯ ซึ่งก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย แต่ทำให้เกิดปัญหาร่วมกันทั้งระบบดังนี้
-เมื่อเราต้องการใช้ Content ร่วมกัน ในการพัฒนาเนื้อหาการสอนใหม่
-เมื่อเราต้องการใช้ Content ที่พัฒนาแล้วข้ามระบบ LMS
ในปัจจุบันเนื้อหาของ e-Learning จะถูกพัฒนาเพื่อใช้สำหรับ LMS หนึ่งๆ เท่านั้น เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว จึงได้มีการกำหนดมาตรฐานร่วมกัน เพื่อทำให้เป็นมาตรฐานกลาง คือ SCORM ขึ้นในปี ค.ศ. 1997

สรุป SCORM คือ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูล e-learning ระหว่างค่ายต่างๆ ให้สามารถอ่านซึ่งกันและกันได้นั่นเอง ไม่ใช่ของใครของมันอีกต่อไป

อ้างอิง : เพ็ญจันทร์ พันธบุตร 081-9380099 02-4172671 phenchan_p@hotmail.com 13/02/51


วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

ประวัติโดยสังเขป รมต.สมัยนายกสมัคร (1)



นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม
แม้วัยจะล่วงเลยกว่า 72 ปี แต่เรื่องความจำต้องยกนิ้วให้ เพราะตั้งแต่ในวัยหนุ่มคุ้นชินกับข้อมูล ตัวเลข ด้วยหน้าที่ในบริษัทเอกชนทั้งสัญชาติไทยและเทศ ฝึกฝนให้นายสมัครเป็นคนที่ต้องแม่นในข้อมูล นอกจากนี้ ประสบการณ์ทางการเมืองของนายสมัคร จัดว่าเป็นระดับอ๋องคนหนึ่ง ผ่านงานในวิชาชีพสื่อสารมวลชน และเริ่มชีวิตนักการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ปี 2511 ทั้งยังเป็นหัวหน้าพรรคประชากรไทย ที่เคยเฟื่องฟูอย่างมากในอดีตกาล ผ่านงานบริหารมาแล้วหลายกระทรวง อีกทั้งเคยทำงานเป็นผู้บริหารการเมืองท้องถิ่น อาทิ การเป็นสมาชิกสภาเทศบาลกรุงเทพฯ ในปี 2514 และได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในปี 2543 ด้วยคะแนนท่วมท้นกว่าล้านเสียง เคยตั้งความหวังจะรูดม่านชีวิตทางการเมืองของตัวเองในตำแหน่ง ส.ว. โดยได้รับการเลือกตั้งในการลงสมัครชิงเก้าอี้ ส.ว.เมืองหลวง เข้าวินอันดับ 2 แต่ยังไม่ทันขึ้นสภาสูง ต้องพับไปก่อนจากการรัฐประหารในเดือน ก.ย. 2549 ชีวิตนายสมัครเหมือน “แมว” ที่มักจะกล่าวขานกันว่าแมวนั้นมี 9 ชีวิต มาถึงวันนี้นายสมัคร ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ของประเทศไทย และเป็น รมว.กลาโหม พร้อมกับขอโอกาสในการพิสูจน์ฝีมือการทำงาน.


รองนายกรัฐมนตรี มี 4 คน คือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์, นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์, นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี, นายสุวิทย์ คุณกิตติ,



นายสหัส บัณฑิตกุลอายุ 58 ปี ศิษย์เก่า วศ.10 (วิศวะจุฬาฯ รุ่น 2510) จบปริญญาโทวิศว กรรมศาสตร์สาขาเครื่องกลฯ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทบริหารธุรกิจที่เมืองลีดส์ ประเทศอังกฤษ และปริญญาเอกวิศวกรรมเครื่องกลจากรัฐมิชิแกน สหรัฐ เคยเป็นอาจารย์สอนที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ก่อนย้ายไปทำงานที่การรถไฟแห่งประเทศไทย จนได้เป็นรองผู้ว่าการการรถไฟฯและลาออก ไปทำงานที่บริษัทโอเลฟิน จากนั้นกลับมาเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. สมัยที่นายสมัคร เป็นผู้ว่าฯ กทม. มีหน้าที่ดูแลงานด้านโยธาโดยเฉพาะด้านน้ำ ที่ต้องรับผิดชอบการวางแผนเรื่องการระบายน้ำ และแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นคนหนึ่งที่สนิทสนมกับนายสมัครมาตั้งแต่นายสมัครเป็น รมว. คมนาคม เคยได้รับรางวัลวิศวะจุฬาฯดีเด่น ครั้งที่ 8 ประจำปี 2546 อีกด้วย และยังมีนายพ้อง ชีวานันท์ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคพลังประชาชน เป็นเพื่อนร่วมรุ่น วศ.10 อีกด้วย
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์“ชาละวัน...ยังไม่ตาย” คงจะเรียกขานเช่นนี้ไม่ผิดนัก เพราะ พล.ต.สนั่น ผู้มีประสบการณ์โชกโชนทางการเมือง ผ่านทั้งรัฐประหาร เป็นกบฏนอนคุกก็เคยแล้ว เป็นมาแล้วทั้ง รมว.อุตสาห กรรม เกษตรฯ และมหาด ไทย เคยเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ในยุคนายชวน หลีกภัย เป็นหัวหน้าพรรค ที่ถือว่าเป็นคู่หัวหน้า-เลขาพรรคที่คลาสสิกคู่หนึ่งของการเมืองไทย แต่ภายหลังการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่กลุ่มผลัดใบของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้ามาบริหาร “เสธ.หนั่น” ได้ปลีกตัวไปตั้งพรรคมหาชน และมีอดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตามไปอยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง สุดท้ายได้ตัดสินใจย้ายมาอยู่กับพรรคชาติไทยเพื่อทำงานทางการเมืองต่อไป “เสธ.หนั่น” เป็นผู้ที่พิสมัยในรสชาติไวน์แดง มีไวน์ยี่ห้อชาโต เดอ ชาละวัน ที่ผลิตขึ้นเอง และยังมีฟาร์มนกกระจอกเทศที่ จ.พิจิตร หลังผ่าตัดถุงไขมันใต้ตาเลยดูหนุ่มขึ้น


นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รมว.ศึกษาธิการเกิดวันที่ 31 ส.ค. 2490 ที่นครศรีธรรมราช สมรสกับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งเป็นน้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จบการศึกษานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เริ่มรับราชการครั้งแรกในตำแหน่งผู้ช่วยผู้พิพากษากระทรวงยุติธรรม เมื่อปี 2517 จนได้เป็นถึงปลัดกระทรวงยุติธรรมเมื่อปี 2542 รวม 4 ปี และยังได้ต่ออายุราชการไปอีก 3 ปี ก่อนไปเป็นปลัดกระทรวงแรงงาน 1 ปี และกลับมาเกษียณในตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม จนได้รับฉายาว่า “ซูเปอร์ปลัด” เคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อเอาไว้ว่า “เราปฏิเสธไม่ได้ว่าบางคนอาจเรียนจบถึงดอกเตอร์ แต่เวลาทำงานจริงสู้คนที่มีประสบการณ์ช่ำชองไม่ได้ เราต้องเข้าใจว่าท่านทำงานมาก่อน ต้องรู้เรื่องดีกว่าเรา ผมเองเป็นแค่อนุบาลทางการเมืองคนหนึ่งเท่านั้นเอง”

นายพงศกร อรรณนพพร รมช.ศึกษาธิการ
จบปริญญาตรีทางบริหารธุรกิจ ปริญญาโทรัฐศาสตร์การปกครอง จากรามคำแหง หลังจากกลับจากต่างประเทศ เคยดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานกรรมการสุขาภิบาล อ.หนองสองห้อง และยังเคยเป็นผู้ทรงคุณวุฒิใน กปจ.ขอนแก่น เคยเป็น ส.ส.ขอนแก่นในนามพรรคชาติพัฒนา ก่อนย้ายมาร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย และสอบผ่านเข้ามาเป็น ส.ส.ขอนแก่น เคยผ่านงานทางด้านการบริหารมาแล้วในสำนักเลขานุการนายกฯ เป็นที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข เป็นที่ปรึกษา รมว.อุตสาหกรรม ทั้งยังเคยเป็นคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ คณะกรรมาธิการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน คณะกรรมาธิการงบประมาณ ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา นายพงศกรไม่ได้ลงเลือกตั้ง แต่ส่งนางดวงแข อรรณนพพร ภรรยาลงรับสมัครแทนภายใต้การประสานงานกับกลุ่มของนายเนวิน ซึ่งสามารถสอบผ่านเข้ามาได้ไม่ยากเย็น

นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รมช.ศึกษาธิการ
คนหนุ่มวัย 40 ปี เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงทางการเมือง สนิทสนมกับ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีตแกนนำภาคกลางพรรคไทยรักไทย เป็นชาว อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี จบปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหิดล คณะสิ่งแวดล้อมก่อนหน้าเข้าวงการเมือง เคยเป็นผู้สื่อข่าว นสพ.ข่าวสด และ นสพ.บ้านเมือง ปี 2538 เป็น ส.จ.เมืองโอ่งสมใจ จากนั้นได้รับเลือกตั้งอีกครั้งเป็น ส.อบจ. (ตาม พ.ร.บ.ใหม่) แล้วนั่งประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดรวม 2 สมัย ได้เป็น ส.ส.ครั้งแรกในสังกัดพรรคไทยรักไทยในปี 2544 และเคยเป็นเลขานุการ มท.2 สมัยนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช หากอยากหาเรื่องพูดคุยกับนายบุญลือแนะนำให้สนทนาภาษาฟุตบอลรับรองคุยได้นาน นอกจากนี้หลัง นางกอบกุล นพอมรบดี อดีต ส.ส.ราชบุรี เสียชีวิต จึงมารับเป็นนายกสมาคมกีฬา จ.ราชบุรีอีกด้วย


นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รมว.พาณิชย์
อดีตพนักงานขายรถยนต์ญี่ปุ่นยี่ห้อยอดนิยม ใครจะคิดว่าชายคนนี้ จะก้าวขึ้นสู่ผู้บริหารระดับภูมิภาคเอเชียในบริษัทรถยนต์ดังกล่าว ชื่อของ “มิ่งขวัญ” มาแจ่มชัดมากขึ้น เมื่อได้เข้ามารับเก้าอี้ กรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท เข้ามาผ่าอาณาจักรทีวีสนธยา จับแปลงโฉมแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่กลายเป็น “โมเดิร์นไนน์ ทีวี” ดันเข้าตลาดหลักทรัพย์ และการเฟ้นพิธีกรข่าวที่มีลีลาเฉพาะตัว รวมทั้งการจัดผังรายการที่ทำให้ทีวีช่องนี้กำไรเป็นกอบเป็นกำ แม้จะถูกมองว่าเป็นนักการตลาด แต่ถ้าขายของแล้วได้กำไรมาก คงไม่มีใครอยากปฏิเสธ ในคืนวันที่ 19 ก.ย. โมเดิร์นไนน์ ทีวี เป็นสถานีโทรทัศน์ช่องเดียวที่ออกอากาศสดเสียง พ.ต.ท.ทักษิณ โทรศัพท์ข้ามทวีปจากอเมริกาในคืนยึดอำนาจ ก่อนที่ทหารจะเข้ามาควบคุม นายมิ่งขวัญจึงขอลาออกก่อนถูกทาบทามเข้าร่วมกับพรรคพลังประชาชนในภายหลัง นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.พาณิชย์ อายุ 65 ปี ในอดีตเป็นคนสำคัญของบริษัทวังเพชรบูรณ์เป็นบริษัทในเครือของเตชะไพบูลย์ที่ก่อสร้างเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ เคยเป็นอดีตรองหัวหน้าพรรค พรรคความหวังใหม่ อดีตที่ปรึกษา นพ.กระแส ชนะวงศ์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ อดีตที่ปรึกษา, กรรมการผู้ช่วย รมต. ในสมัยของนายวราเทพ รัตนากร เป็น รมช.คลัง จึงถือว่าเป็นบุคคลหนึ่งที่ได้รับเสียงสนับสนุนมาจากนายวราเทพ สำหรับด้านการศึกษาจบปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ สาขาบริหารงานทั่วไป มหาวิทยาลัย HAWTHONE รัฐนิวแฮมป์เชียร์ สหรัฐอเมริกา ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาการตลาด) มหาวิทยาลัยรามคำแหง หลักสูตร “ป้องกันราชอาณาจักร ภาครัฐร่วมเอกชน รุ่นที่ 2” วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร และหลักสูตร “CORPORATE FINANCE” สถาบันศศินทร์

พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รมช.พาณิชย์
เคยเป็นรองหัวหน้าพรรคมัชฌิมา อายุ 45 ปี นรต.รุ่น 39 จบปริญาญาโทจากมหาวิทยาลัยนเรศวร อดีตเคยเป็น สวส.สภ.อ.ตาคลี ทายาทร้านค้าส่งร้านใหญ่ในปากน้ำโพ เป็น ส.ส.นครสวรรค์ ปี 2544, 2548 ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ลงในระบบสัดส่วนเขต 2 แต่สอบตก เป็นหนึ่งในส.ส.สายเดียวกับนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน ภายใต้การสนับสนุนของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ติดสอยห้อยตามกันมาจากไทยรักไทย และยังเคยดำรงตำแหน่งเป็นเลขานุการ รมว.แรงงานมาแล้ว นอกจากนี้ ยังมีประสบการณ์ทางการเมืองโดยเคยเป็นรองประธานกรรมาธิการการเงินการคลังการธนาคารคนที่ 1, กรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค, กรรมาธิการสาธารณสุข, กรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) มาแล้ว



นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รมว.คลัง
“หมอเลี้ยบ” ต้องมารับภาระหนักและสำคัญอีกครั้งหนึ่ง เพราะระดับคีย์แมนเศรษฐกิจหลายคน ต้องไปอยู่บ้านเลขที่ 111 ในอดีตสมัยเป็นนักศึกษาม.มหิดล “หมอเลี้ยบ” เคยเป็นนายกสภานักศึกษาร่วมกิจการการเมืองสมัย 6 ตุลาคม 2519 เริ่มรับราชการเป็นนายแพทย์ในรพ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ และมาเติบโตใน รพ.รามาธิบดี ก่อนที่จะหันเหไปร่วมงานกับพรรคพลังธรรม แม้จะสอบตกแต่ก็ยังไม่ทิ้งงานการเมือง ได้เป็นรมช.สาธารณสุข ผลักดันนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคในสมัยรัฐบาลทักษิณ 1 และเป็นรมว.ไอซีที คนแรก ทิ้งผลงานปรับโฉม บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ให้เห็นว่าทำได้มากกว่ารับส่งจดหมาย และยังเคยผ่านงานโฆษกรัฐบาลมาแล้ว ช่วงวุ่น ๆ หรืองานที่คนอื่นไม่อยากรับ ชื่อนี้มักจะถูกเรียกใช้บริการเสมอ ซึ่ง “หมอเลี้ยบ” มักจะปฏิเสธไม่เป็นทุกครั้งไป นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง กว่าจะรอดเข้ามาเป็น รมต.ในรัฐบาลนี้ ต้องเผชิญแรงเสียดทานจากการต่อต้านภายในพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา แม้จะเป็นเลขาธิการพรรค แต่สอบไม่ผ่านทำให้สมาชิกไม่ค่อยพอใจต่อการเข้ารับตำแหน่งนัก นายประดิษฐ์ หรือ “เสี่ยอ๊อด” เดิมเป็นนักธุรกิจโรงแรมและห้างสรรพสินค้า เข้าสู่สนามการเมืองตามคำชักชวนจาก พล.ต.สนั่น เป็น ส.ส.พิจิตรครั้งแรกในปี 2538 เคยถูกมอบหมายให้เป็นประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร เคยเป็น รมช.คมนาคมมาแล้ว และยังเคยเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์มาช่วงเวลาหนึ่งด้วย นายประดิษฐ์ เคยบอกว่า สำหรับตัวเขาเอง เวลาพักผ่อนมีน้อยมาก ส่วนใหญ่จะสนุกกับการทำงานการเมือง หากมีเวลาก็จะเล่นฟุตบอลซึ่งเป็นกีฬาที่ชอบ เพราะเล่นมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมที่โรงเรียนอัสสัมชัญ ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมช.คลัง วัย 51 ปี ลูกสาวนายเลิศ หงส์ภักดี อดีตผวจ.นครราชสีมาและอดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นภรรยาของว่าที่ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี แกนนำคนสำคัญของพรรคเพื่อแผ่นดิน และอดีตสมาชิกกลุ่ม 16 สายบ้านริมน้ำของนายสุชาติ ตันเจริญ อดีตแกนนำกลุ่ม 16 เช่นกัน ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ จบการศึกษาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จบพยาบาลกองทัพบกรุ่นที่ 10 และรัฐศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเกริก รับราชการมาทางสายสาธารณสุข เป็นนักวิชาการ ประจำสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ก่อนลงส.ว.นครราชสีมา เป็น ผอ.กองสาธารณสุข องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา และในการเลือกตั้งครั้งนี้ ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นครราชสีมา ในเขต 4 ภายใต้การส่งน้ำเลี้ยงอย่างดี จึงสอบผ่านได้ไม่ยาก



นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.อุตสาหกรรม
ปัจจุบันอายุ 51 ปี เป็นชาวขอนแก่นโดยกำเนิด จบปริญญาตรีและโททางเคมี จากมหาวิทยาลัยแคนตักกี้ สหรัฐ เป็น ส.ส.มาอย่างต่อเนื่อง แต่ครั้งล่าสุดกลับสอบตก ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีมาหลายสมัย เคยสร้างความฮือฮาจากการนำผ้าขาวคลุมหัวเข้าพิธีแก้เคล็ด ผลงานโดดเด่นเป็นผู้ริเริ่มโครงการกองทุนหมู่บ้าน ต่อมามีปัญหาเรื่องสุขภาพจึงได้พักรักษาตัวและออกบวช แยกตัวออกจากไทยรักไทย ตั้งกลุ่มสมานฉันท์ ก่อนรับอาสาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน






นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุขก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่การเมือง ทำธุรกิจทั้งปั๊มน้ำมันและงานขนขยะของ กทม. ซึ่งเป็นธุรกิจของตระกูล ก้าวเข้าสู่แวดวงการเมืองโดยเป็น ส.จ. และ ส.ท. นครปฐม ก่อนกระโดดเข้าสู่ถนนการเมืองระดับชาติตามพี่ชายคือนายไชยยศ และน้องชายคือนายเผดิมไชย เป็น ส.ส.สมัยแรกเมื่อปี 2538 สังกัดพรรคเอกภาพ เคยดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคเอกภาพด้วย ก่อนย้ายมาอยู่พรรคไทยรักไทยและเป็น ส.ส.นครปฐม เรื่อยมา เคยเป็น รมช. คมนาคม โดยดูแลการคมนาคมทางน้ำ เคยได้รับฉายาว่า "จอมแต่งตั้ง"

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมช.สาธารณสุข
เป็นผู้ช่ำชองในวงการก่อสร้าง นับได้ว่าเป็นนักสู้คนหนึ่งที่สามารถปั้นชิโน-ไทยขึ้นมาเป็นบริษัทชั้นแนวหน้าในด้านโครงสร้างโลหะ เคยเป็นประธานคณะกรรมการสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย และประธานสถาบันเหล็ก อาเซียน เป็นอดีตรมช.คลัง 2 สมัย เคยผลักดันให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล บุตรชาย ที่มาร่วมงานกับพรรคไทยรักไทยเป็น รมช. สาธารณสุข ซึ่งได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมงานทั่วทั้งกระทรวงหมอ โดยเฉพาะการดูงานด้านอสม. ที่ช่วยสร้างฐานเสียงให้กับพรรคไทยรักไทยในยุคนั้น


นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรมอดีตหัวหน้ากลุ่ม 16 ผู้เกรียงไกร มาร่วมงานกับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยไม่มีบทบาทโดดเด่นอะไร ได้เป็นแค่ผู้แทนการค้า แต่กลายเป็นข้อดีที่ไม่ติดร่างแห 111 คน จบปริญญาตรี สาขาเศรษฐ ศาสตร์ จาก CURRY COLLEGE มิลตัน แมสซาชูเซตส์ สหรัฐ ทำงานในบริษัทเอกชนมาหลายแห่ง ก่อนกระโจนเข้าสู่วงการเมือง เป็น ส.ส.ชลบุรี เมื่อปี 2529 ก่อนย้ายไปเป็น ส.ส.เชียงใหม่ เคยเป็นรัฐมนตรีมาแล้วหลายกระทรวง โดยมี พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ อดีตอธิบดีดีเอสไอเป็นน้องชาย

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย
“ดร.เฉลิม” จบปริญญาเอกนิติศาสตร์ จากรามคำแหง เคยได้รับฉายา “สารวัตรประเทศไทย” อดีตนายตำรวจกองปราบปราม ในตำแหน่งสารวัตรแผนก 4 กอง 2 ลาออกเข้าสู่ถนนการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยความเป็นคนกว้างขวาง ใจนักเลง จึงมีเพื่อนฝูงมากมาย ว่ากันว่าสมัยเป็นรมต.สำนักนายกฯ ได้รู้จักกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นนักธุรกิจไฟแรง และมีเรื่องที่ต้องหารือร่วมกันบ่อยครั้ง ความสัมพันธ์จึงผูกพันตั้งแต่ก่อนเป็นต้นมา ในอดีต “สารวัตรเหลิม” เคยเป็น มท.6 ตั้ง “ศูนย์พิฆาตสื่อ” แต่ก็ต้องยุติบทบาทไปเอง เพราะขัดกับกระแสโลกที่ต้องการเห็น เสรีภาพสื่อ ช่วงหลังจากที่พรรคความหวังใหม่ยุบพรรค บทบาททางการเมืองเลยเลือนหายไปบ้าง ภาพที่ติดตัวของ “สารวัตรเหลิม” คือ เป็นพ่อที่รักลูกมาก จนใครหลายคนต้องยกนิ้วให้ในเรื่องนี้ กับตำแหน่ง มท.1 ตีตราจองมาตั้งแต่เริ่มหาเสียง
นายสุพล ฟองงาม รมช.มหาดไทยเกิดวันที่ 5 ก.ค. 2505 เป็นนักการเมืองจากเมืองดอกบัว อุบลราชธานี เติบโตมาจากการเมืองสนามเล็กในระดับส.จ.มาก่อน ปัจจุบันอายุ 45 ปี จบการศึกษาปริญญาตรีนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ปริญญาโทจากนิด้า สาขาพัฒนาสังคม เดิมประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้างมาก่อน เข้ามาเป็นส.ส.ครั้งแรกในปี 2540 สังกัดพรรคความหวังใหม่ ต่อมาจึงยุบรวมกับพรรคไทยรักไทย นอกจากนี้ นายสุพล ยังเคยอยู่ในกลุ่มวังน้ำเย็นเมื่อครั้งที่นายเสนาะ เทียนทอง ยังอยู่กับพรรคไทยรักไทยด้วย โดยเมื่อครั้งการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2550 นายสุพลเป็นผู้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่ามีข้าราชการในจ.อุบลฯรณรงค์ให้คนไปออกเสียง แลกกับเงื่อนไขเงินสนับสนุนโครงการกองทุนหมู่บ้านและเอสเอ็มแอล โดยขู่ว่าหากหมู่บ้านใดมีการออกเสียงประชามติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเป็นจำนวนมาก ก็จะยกเลิกโครงการดังกล่าว
นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ รมช.มหาดไทย
เคยอยู่กับพรรคไทยรักไทยมาก่อน ครั้งนี้ลงสมัครส.ส.สัดส่วน กลุ่มที่ 4 ลำดับที่ 10 พรรคเพื่อแผ่นดิน แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง และเป็นผู้ที่ทำให้พรรคพลังประชาชนต้องระทึกขวัญ กรณีปรากฏว่ามีชื่อเป็นสมาชิกพรรคซ้ำซ้อน และพบว่ามีการปลอมลายเซ็น โดยนายสิทธิชัยได้ถูกกกต.ตัดสิทธิ แต่ได้ร้องต่อศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้ง สุดท้ายศาลสั่งให้มีสิทธิลงสมัครได้ เพราะมีหลักฐานพบว่าในวันดังกล่าว นายสิทธิชัยอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยไปร่วมในงานพระราชทานดินฝังศพ และในตอนเย็นวันเดียวกันนั้น ก็ยังได้ไปร่วมในงานประกวดสาวงามเทียนพรรษาประจำปี 2550 ของ จ.อุบลราชธานี จึงถือว่าไม่ได้เซ็นชื่อ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการยึกยักกันอยู่พักหนึ่ง แต่ในที่สุดนายสิทธิชัยก็ไม่ได้ยื่นฟ้องเรื่องการปลอมลายเซ็นที่มีโทษถึงขั้นยุบพรรคแต่อย่างใด





นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์อายุ 57 ปี มีชื่อเล่นว่า “หมู” มาจากชื่อเล่นดั้งเดิม ว่า “โอว์ตือ” แปลว่า “หมูดำ” เพราะแรกเกิดเป็นเด็กอ้วน ดำ เล่นการเมืองพรรคเดียวไม่เคยย้ายไปไหน เป็น ส.ส.อ่างทองสังกัดพรรคชาติไทย มาตั้งแต่ปี 2529 ผ่านงานสำคัญมามากมาย เช่น รมว.ศึกษาธิการในปี 2542 และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นต้น ช่วงเป็น ส.ส.เป็นทั้งคณะกรรมาธิการสาธารณสุขและสิ่ง แวดล้อม ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีก็เคยผ่านมาแล้ว รวมถึง รมช.ศึกษาธิการในปี 2540 ในเหตุการณ์ 14 ตุลา เป็นหนึ่งในนักศึกษาที่เดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตยด้วย มีบทบาทโดดเด่นจากการทำหน้าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าทำหน้าที่ได้อย่างดี เป็นธรรม เป็นกลางแก่ทุกฝ่าย
นายสมพัฒน์ แก้วพิจิตร รมช.เกษตรและสหกรณ์อายุ 47 ปี เป็นกำนัน ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐมมานานเกือบ 10 ปี จนชาวบ้านเรียกขานกันติดปากว่า “กำนันไก่” ลงเล่นการเมืองสังกัดพรรคชาติไทยได้เป็น ส.ส.มาตั้งแต่ปี 2538 ไม่เคยย้ายไปอยู่พรรคอื่น เป็นผู้ช่วยเลขานุการ รมว.ศึกษาในปี 2538 และ 2544 รวมทั้งเคยเป็นผู้ช่วยเลขานุการ รมว.เกษตรฯ มีบิดาเป็นนายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครปฐม น้องชายเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครปฐม ทางครอบครัวดำเนินธุรกิจด้านการขนส่ง และธุรกิจโรงแรมในจังหวัดนครปฐม การศึกษาจบปริญญาตรีรัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาตรีบริหารธุรกิจ (MBA) จากสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังเป็นที่ปรึกษาให้กับชมรมอนุรักษ์ป่าตะวันตก ทุ่งใหญ่นเรศวร ที่ดำเนินด้านการอนุรักษ์ป่าอีกด้วย
นายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรและสหกรณ์
อายุ 51 ปี เจ้าของฉายา “อีโต้อีสาน” ส.ส.อุดรธานีรายนี้ เป็นคู่หูกับ “แรมโบ้อีสาน” สุพร อัตถาวงศ์ อดีต ส.ส.นครราช สีมา พรรคไทยรักไทย จบการศึกษา ปริญญาโทสังคมสงเคราะห์ศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เริ่มเล่นการเมืองท้องถิ่นโดยเป็น ส.จ. อุดรธานีเมื่อปี 2538 เคยทำงานเป็นหัวหน้าควบคุมการผลิตอ้อย น้ำตาลทราย กระทรวงอุตสาหกรรม มีผลงานเด่นที่ช่วยเหลือปัญหาชาวไร่อ้อยภาคอีสานมานาน จนเป็นที่ปรึกษาสหกรณ์การเกษตรหลายต่อหลายแห่ง เป็นเลขาธิการชาวไร่อ้อยภาคอีสาน และรองเลขาธิการสหพันธ์สมาคมชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย ถูก พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ชักชวนให้ลง ส.ส.เมื่อปี 2544 ได้เข้าสภาสมใจและเป็น ส.ส.จนกระทั่งถึงปัจจุบัน การเลือกตั้งที่ผ่านมาประสานงานกับกลุ่มของนายเนวิน ชิดชอบ ได้เป็นอย่างดี




นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม
ด้วยวัย 56 ปี บวกประสบการณ์ความเป็นนักธุรกิจในวงการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ เคยเป็นถึงประธานกรรมการ บริษัท นวพัฒนาธานี จำกัด ดำเนินธุรกิจทางด้านพัฒนาที่ดินและอสังหา ริมทรัพย์ รวมทั้งประกอบอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักร เข้าสู่วงการการเมืองในนามพรรคความหวังใหม่ ในปี 2538 ลงสนามเลือกตั้งในจ.เพชรบูรณ์ เคยเป็นที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย ในปี 38-39 ต่อมาเมื่อยุบรวมกับพรรคไทยรักไทย ก็ยังได้เป็นที่ปรึกษา รมว.อุตสาห กรรม ในช่วงที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา รับตำแหน่งเป็น รมว. อุตสาหกรรม และเคยเป็นที่ปรึกษา รมช.อุตสาหกรรมสมัยนายพิเชษฐ์ สถิรชวาล นอกจากนี้ถ้าเอ่ยชื่อนี้รู้ดีว่ากระเป๋าสตางค์เป็นขนาดใด เพราะในช่วงที่วุ่นวาย นายสันติยังช่วยพรรคดูแลการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและในภาคอีสานได้เป็นอย่างดี


นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม
อายุ 50 ปี จบนิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นส.ส.บุรีรัมย์มาตั้งแต่ปี 2535 เคยผ่านงานรองโฆษกคณะกรรมาธิการสาธารณสุข ปี 2535 ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.คลัง ในปี 2538 ผู้ช่วยเลขานุการรมว.ศึกษาธิการ ในปี 2539 โฆษกคณะ กรรมาธิการการทหาร ปี 2539 และยังเคยเป็นรองประธานคณะกรรมาธิการสาธารณสุขด้วย นายทรงศักดิ์ เป็นผู้หนึ่งที่ทำงานได้เข้าขากับนายเนวิน ชิดชอบ อดีตแกนนำกลุ่มบุรีรัมย์ พรรคไทยรักไทย ได้เป็นอย่างดี ซึ่งในการเลือกตั้งที่ผ่านมา นายทรงศักดิ์ เป็นคนหนึ่งที่ร่วมบริหารงานเลือกตั้งให้กับพรรคพลังประชาชน จนทำให้กวาดที่นั่ง ส.ส.ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้เป็นกอบเป็นกำ สำหรับฐานเสียงสำคัญของนายทรงศักดิ์ อยู่ใน อ.ประโคนชัย เครือญาติหลายคนก็เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นมาก่อน
นายอนุรักษ์ จุรีมาศ รมช.คมนาคม
อายุ 48 ปี ชื่อเล่นว่า “แกะ” นายอนุรักษ์ปัจจุบันเป็นรองหัวหน้าพรรคชาติไทย เคยนั่งบริหารงานในกระทรวงวัฒนธรรมมาในสมัยร่วมรัฐบาลทักษิณ เป็น ส.ส. ตั้งแต่ปี 2529 ผ่านตำแหน่งบริหารมาแล้ว เป็น รมช.คลังในปี 2538 รมช.อุตสาห กรรมปี 2540 รมช.เกษตรฯปี 2541 รมว.การพัฒนาสังคมฯ ในปี 2545 และ รมว.วัฒนธรรมในปี 2546 จบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง และเนติบัณฑิตไทย ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา นายอนุรักษ์ ได้รับมอบหมายจากนายบรรหาร ให้เป็นแม่ทัพดูแลการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคอีสาน ร่วมกับนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ และยังเคยให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่งเอาไว้ว่า “ถ้าคนเราทำแต่เรื่องดี ๆ ไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนหรือไปทำในลักษณะเบียดเบียนให้กับคนอื่น ชีวิตคนเราก็จะมีความสุข”




นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ
อายุ 47 ปี เป็นคนนครราชสีมา จบนิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยม) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นนักเรียนทุนอานันทมหิดล ไปศึกษาต่อด้านกฎหมายทางธุรกิจ คว้าปริญญาตรีทางกฎหมายจากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดอีก 1 ใบ ปริญญาโทกฎหมายจากมหาวิทยาลัยลอนดอน ทั้งยังสอบเนติบัณฑิตไทย เนติบัณฑิตอังกฤษ เป็นเจ้าของสำนักกฎหมาย บริษัทสำนักกฎหมายสากล นพดลแอนด์แอสโซซิเอทส์ จำกัด ก่อนถูกชักชวนมาเล่นการเมืองในนามพรรคประชาธิปัตย์ และได้เป็น ส.ส. สมัยเดียวเมื่อปี 2539 ทำหน้าที่เป็นเลขานุการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ภายหลังจึงมาอยู่กับพรรคไทยรักไทย ได้เป็นผู้ช่วย รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ และเลขานุการ รมว.ต่างประเทศ ในปี 2543 เคยเป็นผู้แทนรัฐบาลไทยไปประชุมใหญ่สมัชชายูเอ็น นอกจากนี้ยังเป็นทนายความประจำตระกูลชินวัตรด้วย







นางอุไรวรรณ เทียนทอง รมว.แรงงาน
อายุ 65 ปี เป็นภรรยาของนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้ากลุ่มวังน้ำเย็น และหัวหน้าพรรคประชาราช ก่อนลงเล่นการเมืองเ ป็นข้าราชการมาก่อน ตำแหน่งแรกคือเสมียนตราจังหวัดปราจีนบุรี ตำแหน่งสุดท้าย ผู้อำนวยการสำนักบริหารการศึกษาท้องถิ่น ระดับ 9 กรมการปกครอง เข้าสู่แวดวงการเมืองครั้งแรกก็ได้เป็น รมว.แรงงาน ในโควตากลุ่มวังน้ำเย็นเมื่อครั้งที่นายเสนาะยังอยู่กับพรรคไทยรักไทย และเก้าอี้สุดท้ายที่ “ป้าอุ” ประกาศลาออก คือเป็น รมว.วัฒนธรรม ซึ่งเป็นสมัยที่สองในเก้าอี้ รมว.วัฒนธรรม โดยการประกาศลาออกครั้งนั้น “ป้าอุ” ให้เหตุผลตอนหนึ่งในแถลงการณ์การลาออกว่า “เพื่อรักษาจริยธรรมทางการเมืองไว้” ส่งผลสะเทือนต่อสถานภาพรัฐบาลทักษิณตอนปลาย อย่างเห็นได้ชัด ซึ่ง “ป้าอุ” ยืนยันว่าตัดสินใจลาออกด้วยตัวเอง ไม่ใช่คนที่บ้านแนะนำ



นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รมว.วัฒนธรรม
อายุ 56 ปี บุตรชายของนายณรงค์ วงศ์วรรณ พ่อเลี้ยงผู้กว้างขวางของแพร่และอดีตหัวหน้าพรรคสามัคคีธรรมที่เคยจะได้เป็นนายกฯมาแล้ว จบการศึกษาปริญญาโท สาขาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอร์ธ แคโรไลนา สหรัฐอเมริกา เป็น ส.ส. สมัยแรกเมื่อปี 2534 ที่ผ่านมาเคยเป็นรมช.อุตสาหกรรม รมช.มหาดไทย และรมช.แรงงาน เป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มลมเหนือในพรรคชาติพัฒนาที่ยุบไปรวมกับพรรคไทยรักไทย


นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี
อายุ 60 ปี จบนิติศาสตรบัณฑิตเกียรตินิยม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโทสาขา กฎหมายเปรียบเทียบ จาก SOUTHEN METHODIST UNIVERSITY, DALLAS, TEXAS สหรัฐอเมริกา เคยรับราชการเป็นอดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง จนได้เป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ระหว่างปี 2534-2536 อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อดีตอนุกรรมการ ป.ป.ป. เป็น ส.ส.ครั้งแรกเมื่อปี 2544 เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคพลังประชาชน

นายจักรภพ เพ็ญแข รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี
เป็นหนึ่งในแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ นปก. มีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวหลังรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ถึงขนาดถูกจับเข้าคุกมาแล้ว จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ สาขาการทูต จากรั้วจามจุรี รับราชการในตำแหน่งเจ้าหน้าที่การทูต กรม สารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์สถานการณ์ต่างประเทศ ที่ยังวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศผ่านหน้าจอโทรทัศน์ทำหน้าที่รายงานและวิเคราะห์เหตุการณ์ 9-11 ได้ดีคนหนึ่ง เข้าสู่สนามการเมืองจากการชักชวนของ น.ต.ศิธา ทิวารี
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา
อายุ 43 ปี จบนิติศาสตร์เกียรตินิยมจากจุฬาฯ และนิติศาสตรมหาบัณฑิตจากฮาร์วาร์ด ก้าวเข้ าสู่วงการเมืองเป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคชาติไทยเมื่อปี 2548 เป็นที่ปรึกษา รมว.หลายกระทรวง ช่วงเป็นผู้ช่วย รมว.วัฒนธรรม ดูแลเรื่องปราบปรามสื่อลามกอย่างจริงจัง ตลอดจนดูแลเรื่องสิทธิเด็กและสตรีจนได้รับรางวัลผู้บริหารดีเด่นในการรณรงค์ต่อต้านการกระทำรุนแรงต่อเด็กและสตรีของ UNIFEM รางวัลทูตสิทธิเด็ก สาขานักการเมือง ชอบเลี้ยงสุนัข มีตัวโปรดพันธุ์ปักกิ่ง อายุ 7 ปี ชื่อว่า “เฟย เฟย”
นายวุฒิพงษ์ ฉายแสง รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เป็นน้องชายนายจาตุรนต์ ฉายแสง อายุ 49 ปี สำเร็จการศึกษาสูงสุดระดับปริญญาตรีนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เคยประกอบธุรกิจทางด้านการเกษตร และอสังหาริมทรัพย์ ลงเล่นการเมืองเป็นส.ส.ฉะเชิงเทรา ตั้งแต่ปี 2539 เคยเป็นอดีตเลขานุการส่วนตัว รมช.อุตสาหกรรม อดีตผู้ช่วยดำเนิน งาน ส.ส.ฉะเชิงเทรา อดีตสมาชิกร่างรัฐธรรมนูญ จ.ฉะเชิงเทรา และคณะทำงาน โครงการแผนกลยุทธ์การวิจัยด้านเกษตรและอุตสาหกรรม
นายสุธา ชันแสง รมว.การพัฒนาสังคมฯ
อายุ 48 ปี จบการศึกษารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำธุรกิจทางด้านการขนส่งและปั๊มน้ำมันมาก่อน ปี 2528 เป็นส. ก.เขตบางแค ต่อมาปี 2535 ได้เป็นส.ส.กรุงเทพฯ ในเขตบางแค ตั้งแต่ปี 2537 เป็นที่ปรึกษารมช.คมนาคม และรมช.มหาดไทย สมัยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ดูแล ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นรองประธานภาคกทม. แม้ผลการเลือกตั้งจะออกมาไม่เป็นไปตามคาดแต่ก็ได้ 1 เก้าอี้ รมว. มาดูแลจนได้


นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
อายุ 50 ปี มีชื่อเล่นว่า “เป้า” แต่ในวงการสื่อมวลชนมักเรียกขานกันว่า “เจ๊เป้า” เป็นคนสุโขทัยโดยกำเนิด และยังเป็นภรรยาคนสวยของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน สมาชิกแห่งบ้านเลขที่ 111 อดีตแกนนำกลุ่มวังน้ำยม พบรักกับนายสมศักดิ์ตั้งแต่สมัยรับราชการเป็นครูอยู่ที่สุโขทัย และรับราชการในสายศึกษามาตั้งแต่ปี 2524-2538 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคมัชฌิมาธิปไตย การศึกษาจบปริญญาตรีจาก มศว พิษณุ โลก ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยนเรศวร ปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก้าวเข้าสู่ถนนการเมืองตามสามีและได้เป็น ส.ส. ปี 2544, 2548 จ.สุโขทัย บ้านเกิด สังกัดพรรคไทยรักไทย หลังเหตุการณ์รัฐประหารและสามีถูกแขวน จึงได้นำ ส.ส.ในกลุ่มมาสร้างพรรคใหม่ คือ พรรคมัชฌิมาธิปไตย ในอดีตเคยเป็นประธาน ส.ส.หญิงพรรคไทยรักไทยอีกด้วย พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงานอายุ 53 ปี พื้นเพเป็นชาวโคราช เป็นภรรยานายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ จบปริญญาโทวิทยาศาสตร์ สาขาชีวเคมี จากจุฬาฯ รับราชการครั้งแรกเป็นอาจารย์วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ตำแหน่งสุดท้ายของชีวิตราชการคือ อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยาลัย วปอ. เคยเป็น ส.ว.นครราชสีมา ชอบเลี้ยงสุนัข หลังจากลาออกจากราชการเลยใช้เวลาว่างเขียนหนังสือแนวเกี่ยวกับสุนัข เคยให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการเมืองไว้ว่า “ไม่ได้วางแผนอะไร ให้เป็นไปตามวิถีทางของมัน"
นายมั่น พัธโนทัย รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศฯ
อายุ 67 ปี จบปริญญาเอก สาขาเศรษฐศาสตร์ จาก KENSINGTON, แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริ กา เคยเป็นรอง นายก อบจ.สมุทรปราการ อดีตเลขาธิการรมช.มหาดไทย อดีต ส.ส.พรรคราษฎร เลขาธิการพรรคราษฎร เป็น ส.ส.สมุทรปราการ 4 สมัย หลังจากนั้นย้ายไปพรรคมหาชนแต่สอบตก และยังเป็น ส.ว. สมุทรปราการในปี 2549 ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มงูเห่าสมัยอยู่พรรคราษฎร และยังเป็นคนใกล้ชิดของนายวัฒนา อัศวเหม อดีตหัวหน้าพรรคราษฎรอีกด้วย



วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

ประวัติวันวาเลนไทน์ (The History of Valentine's Day)

เป็นเกียรติแก่เทพจูโน
ตอนสมัยที่ยุคจักรวรรดิโรมันรุ่งเรือง วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี จะเป็นวันหยุดของชาวโรมัน เพื่อเป็นเกียรติและระลึกถึง “เทพเจ้าจูโน” ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งอิสตรีเพศและการแต่งงาน

ยุคจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่งกรุงโรม


  • ตำนานที่ 1 ห้ามไม่ให้คนโรมแต่งงาน  ต่อมาในรัชสมัยของจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่งกรุงโรม พระองค์ใจคอดุร้าย ชอบทำสงครามนองเลือด พระองค์ได้ทรงเกณฑ์ชายหนุ่มเข้าไปเป็นทหารในกองทัพจำนวนมากและเสียชีวิตในสนามรบ จนกระทั่งต่อมาเกิดการต่อต้านจากชายหนุ่มไม่ยอมเข้าไปเป็นทหาร เพราะไม่อยากจากคู่รัก คนรัก และครอบครัวของตนเองไป ด้วยเหตุนี้องค์จักพรรดิ จึงทรงมีพระบรมราชโองการ ห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้นหรือพิธีแต่งงานในโรมเป็นอันขาด นักบุญรูปหนึ่งนามว่า เซนต์วาเลนไทน์ (St.Valentine) หรือ วาเลนตินุส ได้ละเมิดพระบรมราชโองการ แอบทำพิธีแต่งงานให้หนุ่มสาวชาวโรมหลายคู่ เมื่อความทรงทราบถึงองค์พระจักรพรรดิ นักบุญเซนต์วาเลนไทม์ จึงถูกจับเป็นนักโทษ ขังอยู่ในเรือนจำ
  • ตำนานที่ 2 ให้นับถือพระเจ้า 12 องค์  จักรพรรดิพระองค์นี้ มีนิสัยชอบกดขี่ข่มเหงผู้อื่น ได้สั่งให้ชาวโรมันทุกคน สักการะนับถือพระเจ้า 12 องค์ โดยผู้ที่ขัดขืนคำสั่งจะถูกทำโทษ รวมทั้งห้ามยุ่งเกี่ยวกับพวกคริสเตียนด้วย แต่นักบุญ เซนต์วาเลนไทน์ (Valentine) มีความเลื่อมใส ศรัทธาต่อพระคริสต์มาก เขาได้กล่าวไว้ว่า แม้กระทั่งความตายก็ไม่สามารถ เปลี่ยนความคิดของเขาได้ เขาจึงได้ถูกขังคุก

จูเลีย ลูกสาวผู้คุมเรือนจำ


  • ตำนานที่ 1 ระหว่างถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ นักบุญ เซนต์วาเลนไทม์ ตกหลุมรักจูเลีย ลูกสาวผู้คุมเรือนจำ ซึ่งจูเลียได้ให้การดูแลและมาเยี่ยมเขาเป็นประจำระหว่างที่ถูกคุมขัง
  • ตำนานที่ 2 ขณะที่ นักบุญ เซนต์วาเลนไทม์ ถูกคุมขังอยู่ในคุกนั้น ผู้คุมเรือนจำได้ขอให้ช่วยสอนลูกสาวเขาซึ่งตาบอด จูเลียเป็นคนสวยแต่น่าเสียดายที่เธอตาบอดตั้งแต่แรกเกิด วาเลนไทน์ได้เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ต่างๆ สอนเลข และเล่าเรื่องพระเจ้า ให้เธอฟัง จูเลีย สามารถ รับรู้สิ่งต่างๆในโลกนี้ได้ โดยคำบอกเล่าของวาเลนไทน์ เธอเชื่อใจเขา และเธอมีความสุขมาก เมื่ออยู่กับเขา

วันหนึ่งจูเลียถามวาเลนตินุสว่า “ ถ้าเราอธิษฐาน พระผู้เป็นเจ้าจะได้ยินเราไหม ”
เขาตอบ “ พระองค์เจ้า จะได้ยินเราแน่นอน ท่านได้ยินเราทุกคน ”จูเลียกล่าว “ ท่านทราบหรือไม่ว่า ข้าอธิษฐานขออะไรทุก ๆ เช้า ทุก ๆ เย็น....ข้าหวังว่า ข้าจะได้มองเห็นโลก เห็น ทุก ๆ อย่างที่ท่านเล่าให้ข้าฟัง ”
วาเลนไทน์ จึงบอก “ พระเจ้ามอบแต่สิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ทุกคน เพียงแค่เรามีความเชื่อมั่นในพระองค์ท่าน เท่านั้นเอง ”

จูเลีย ผู้ซึ่งมีความเชื่อมั่นในพระผู้เป็นเจ้า จึงได้คุกเข่า กุมมือ อธิษฐานพร้อมกับ วาเลนไทน์ และในขณะนั้นเอง ก็ได้มีแสงสว่างลอดเข้ามาในคุก และสิ่งมหัศจรรย์ก็ได้เกิดขึ้นจูเลียค่อยๆลืมตา พระเจ้า……เธอมองเห็นแล้ว!!!!! เขาและเธอจึงกล่าวขอบคุณต่อพระเจ้า และเรื่องมหัศจรรย์เรื่องนี้ จึงได้แพร่หลายไปทั่วราชอาณาจักรต่างๆ อย่างรวดเร็ว

From Your Valentine
ในคืนสุดท้ายก่อนที่ นักบุญ เซนต์วาเลนไทม์ จะถูกประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ เขาได้เขียนจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลีย โดยลงท้ายว่า “From your Valentine” เขาถูกประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ.270 (พ.ศ.813 หรือราว 1,738 ปีมาแล้ว)

ต้นอัลมอลต์สีชมพู

ศพของ นักบุญเซนต์วาเลนไทน์ ถูกฝังไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ในกรุงโรม จูเลียได้ปลูกต้นอามันต์หรืออัลมอลต์สีชมพูไว้ใกล้หลุมศพของเขา ซึ่งเป็นที่รักของเธอ ต้นอามันต์หรืออัลมอลต์สีชมพู จึงเป็นดั่งตัวแทนแห่งรักนิรันดรและมิตรภาพอันสวยงาม มาจนถึงทุกวันนี้


เทศกาลแห่งความรัก
ตำนานของนักบุญเซนต์วาเลนไทน์ โด่งดังและเป็นที่เล่าขานในประเทศผรั่งเศส และอังกฤษอย่างแพร่หลาย จนกระทั่งพระในนิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นเทศกาลแห่งความรักมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้

วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

วิดีโอการแสดงหนังใหญ่

เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2551 โรงแรมโกลเด้นซิตี้ ได้เลี้ยงขอบคุณสื่อมวลชน และจัดให้มีการแสดงหนังใหญ่วัดขนอน ศิลปชั้นสูงอันโด่งดังของ จ.ราชบุรี เลยเก็บคลิบวีดีโอ มาฝาก