วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2551

แถลงการณ์ ฉบับที่ 14/2551เรื่อง ธำรงความสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ

ตามที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลให้หยุดการล้มล้างรัฐธรรมนูญ หันมาแก้ปัญหาของประเทศชาติและประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาปากท้องของประชาชน ครั้นเวลาผ่านไปนาน รัฐบาลหุ่นเชิดกลับทำสิ่งที่ตรงกันข้าม เดินหน้าล้มล้างรัฐธรรมนูญเพื่อแก้ปัญหาของตัวเองและพวกพ้อง ไม่ให้พิสูจน์ตัวเองในการพิจารณาของชั้นศาล ไม่แก้ปัญหาของประเทศชาติ และประชาชน ทำให้ประชาชนได้เกิดความไม่พอใจต่อการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเดือดร้อนจากปัญหาข้าวยากหมากแพง พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 11/2551 ลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2551 เพื่อเรียกร้องให้หยุดล้มล้างรัฐธรรมนูญ พร้อมๆ กับการประกาศขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิด เพราะรัฐบาลได้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศชาติแล้ว การเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น ได้ใช้วิถีทางบริหารจัดการที่เป็นประชาธิปไตยมาอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากการประชุมในระดับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแล้ว แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยังได้มีการสอบถามความเห็นต่อหน้ามวลมหาประชาชนที่เข้ามาร่วมชุมนุมโดยตลอดการชุมนุมโดยสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ เพื่อโค่นล้มระบอบทักษิณ และไล่รัฐบาลหุ่นเชิดนั้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยถือเป็นภารกิจศักดิ์สิทธิ์ของพี่น้องประชาชนด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1. ปฏิบัติภารกิจศักดิ์สิทธิ์เพราะถือว่าเป็นการ “ทำหน้าที่”
2. ปฏิบัติภารกิจศักดิ์สิทธิ์เพราะถือว่าเป็นการ “ใช้หนี้แผ่นดิน”
3. ปฏิบัติภารกิจศักดิ์สิทธิ์เพราะถือว่าเป็นการ “ทำบุญ”

การปฏิบัติภารกิจศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการ “ทำหน้าที่” เพราะตามมาตรา 70 ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 บัญญัติเอาไว้ว่าปวงชนชาวไทยมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญนี้
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงอาศัยบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ใช้สิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญตามมาตรา 69 และใช้เสรีภาพตามมาตรา 63 ในการชุมนุมโดยสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ ในการปฏิบัติตาม “หน้าที่” นี้ การปฏิบัติภารกิจศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการ “ใช้หนี้แผ่นดิน” เพราะเมื่อเกิดมาเป็นคนไทยแล้วทุกคนย่อมเป็นหนี้ต่อแผ่นดินกันทั้งสิ้น ดังนั้น เมื่อบ้านเมืองมีปัญหาวิกฤตร้ายแรงดังเช่นปัจจุบัน ประชาชนจึงต้องมาร่วมกันใช้หนี้ต่อแผ่นดิน

การปฏิบัติภารกิจศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ ถือเป็นการ “ทำบุญ” ดังกระแสพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานไว้เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.2530 เนื่องในปีมหามงคลในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษาว่า “การสร้างประโยชน์ ก็คือการทำบุญ” โดยให้ช่วยกันพัฒนาบึงมักกะสันเพื่อเป็นการทำบุญเนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา

บัดนี้ พ่อแม่พี่น้องประชาชนที่ได้เข้าร่วมการชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ชุมนุมถึง 27 วัน 27 คืนแล้ว รัฐบาลก็ไม่ได้ดำเนินการหยุดล้มล้างรัฐธรรมนูญและลาออกไปแต่อย่างใด เมื่อเป็นเช่นนี้ ประชาชนจึงต้องแสดงพลังประชาชนครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ด้วยการเคลื่อนการชุมนุมไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยืนยันในเจตนารมณ์อย่างแรงกล้าของประชาชนในวันนี้

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอย้ำในแนวทางที่ยึดมั่นอีกครั้งหนึ่งว่า การเคลื่อนการชุมนุมไปยังทำเนียบรัฐบาลครั้งนี้ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะไม่เข้าไม่บุกรุก ไม่เข้ายึด ไม่เข้าไปในทำเนียบรัฐบาล แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดประตูทำเนียบรัฐบาล พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็จะไม่มีเป้าประสงค์เพื่อเข้าไปในทำเนียบรัฐบาลแต่ประการใด การเคลื่อนการชุมนุมในครั้งนี้ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอประกาศให้ทราบว่า จะเป็นไปด้วยความสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ เช่นเดิมซึ่งเป็นเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ เสมือนรูปแบบการเดินเพื่อการกุศล

ดังนั้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอประกาศจุดยืนให้ทราบโดยทั่วกันเป็นการล่วงหน้าว่า หากการเคลื่อนขบวนนั้นได้ติดอุปสรรคกีดขวางโดยเจ้าหน้าที่รัฐ กลุ่มผู้ชุมนุมก็จะแสดงไมตรีด้วยรอยยิ้ม ไม่ด่าทอ ไม่ยั่วยุ และปราศจากอาวุธทุกประเภท ไม่ใช้ก้อนหิน ไม่พกด้ามเหล็ก ไม่พกไม้เบสบอล และไม่ใช้อุปกรณ์หนังสติ๊ก

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเดินขบวนครั้งนี้ ได้มีผู้ไม่หวังดีและอันธพาลในฝ่ายรัฐบาลต้องการสร้างความวุ่นวายและใส่ร้ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยด้วยการปะปนเข้ามาในการชุมนุม แม้จะไม่มีเครื่องแบบเพื่อแบ่งแยกผู้ชุมนุมได้ แต่ระยะเวลาตลอด 2 ปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าการชุมนุม ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้นมีแต่ความสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ โดยที่ไม่เคยเกิดเหตุวุ่นวายแม้แต่ครั้งเดียว พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงถือว่าใครก็ตามที่ไม่ทำตามจุดยืนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยตามที่ได้แถลงการณ์มาข้างต้น ถือเป็นกลุ่มอันธพาลนรกป่วนกรุงในฝ่ายรัฐบาลที่ต้องการจะก่อความวุ่นวายบ้านเมืองด้วยการ พกพาอาวุธ ด่าว่ายั่วยุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือสร้างเงื่อนไขให้เกิดการทะเลาะวิวาท ให้ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลแต่เพียงฝ่ายเดียว และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการอย่างเด็ดขาด

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้วางแแผนในการปฏิบัติครั้งนี้ด้วยความอหิงสาและเรียบร้อย ดังนั้น ไม่ว่าจะเคลื่อนย้ายไปทางใดหรือไม่ และไปได้ใกล้ไกลแค่ไหนอย่างไร ก็ถือเป็นชัยชนะสำหรับการชุมนุมในวันนี้ที่ได้แสดงเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างหาญกล้าแล้ว พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอประกาศแจ้งให้ทราบว่า ตลอดระยะเวลาการชุมนุมที่ สะพานมัฆวานฯ ถนนราชดำเนินนอกนั้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจำเป็นต้องสะสมไม้เบสบอล ท่อนเหล็ก ท่อนไม้ ที่ประชาชนบริจาคเอาไว้ให้ ก็เพื่อไว้ป้องกันชีวิตของผู้ชุมนุม เนื่องจากกลุ่มอันธพาลในฝ่ายรัฐบาลได้พยายามเข้ามาทำร้ายร่างกายผู้ชุมนุมตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหวังพึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เลย ดังที่ได้เคยเกิดเหตุการณ์การชุมนุมใหญ่ และเคลื่อนการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มาแล้วเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2550 ที่ประชาชนของผู้ชุมนุมฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ถูกทำร้ายร่างกายอย่างโหดเหี้ยมโดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับเพิกเฉยเสมือนสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มอันธพาลดังกล่าวอีกด้วย พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะมุ่งมั่นธำรงความสงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ ต่อไป

ด้วยจิตคารวะและสันติ
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
20 มิถุนายน 2551

วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2551

แถลงการณ์ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฉบับที่ 11/2551 เรื่อง “โค่นระบอบทักษิณ ไล่รัฐบาลอันธพาลหุ่นเชิด”


ตามที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้จัดให้มีการชุมนุมใหญ่ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2551 และมีมติให้เคลื่อนไหวต่อเนื่องตามแถลงการณ์ฉบับที่ 10/2551 ลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2551 เป็นต้นมา พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอแจ้งให้ทราบว่า การเคลื่อนไหวตามแถลงการณ์ฉบับที่ 10/2551 ได้ถูกขัดขวางจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมิให้เคลื่อนไหวไปปักหลักพักค้างที่หน้าทำเนียบรัฐบาล จนเป็นสาเหตุที่ทำให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต้องเปลี่ยนแผนการปักหลักพักค้างมาอยู่ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินนอก และเป็นผลทำให้ต้องปรับเปลี่ยนจากแผนการเดิมในแถลงการณ์ฉบับที่ 10/2551 ที่จะเคลื่อนมวลชนเดินทางไปที่หน้ารัฐสภา มาเป็นใช้วิธีส่งตัวแทนไปยื่นแสดงตนต่อประธานวุฒิสภา เพื่อยื่นถอดถอนสมาชิกรัฐสภาที่ล้มล้างรัฐธรรมนูญในเช้าวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม 2551 และตัวแทนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ไปยื่นรายชื่อของประชาชนจำนวน 31,881 รายชื่อต่อประธานวุฒิสภาเพื่อถอดถอนสมาชิกรัฐสภาที่ล้มล้างรัฐธรรมนูญเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เช้าวันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม 2551



บัดนี้ การปักหลักพักค้างของพี่น้องประชาชนและองค์กรเครือข่ายภาคเอกชน ที่ได้เข้าร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ณ สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินนอก ได้เข้าสู่คืนที่ 5 ของการชุมนุมใหญ่แล้ว ตลอดระยะเวลา 5 วัน 5 คืน ที่ผ่านมา ประชาชนที่เข้าร่วมการชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ถูกข่มขู่ ถูกคุกคาม และถูกทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด โดยแก๊งอันธพาลที่ได้รับอามิสสินจ้างมาจากนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐอย่างไร้อารยะ แผนการที่นักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐบางคนได้ใช้แก๊งอันธพาล ข่มขู่ คุกคาม และการทำร้ายร่างกายพี่น้องประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสตรีและผู้สูงวัยซึ่งไม่มีหนทางในการต่อสู้กับแก๊งอันธพาลเหล่านี้ ก็เพราะต้องการให้เกิดความหวาดกลัวในการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญอย่างต่อเนื่อง แต่ประชาชนผู้รักชาติก็หาได้ยอมจำนนพ่ายแพ้ต่อความเลวทรามหยาบช้าดังกล่าวไม่ ในทางตรงกันข้าม ประชาชนจำนวนมหาศาลได้เข้าร่วมในการชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพิ่มมากขึ้นทุกวัน และยังได้เกิดอาสาสมัครที่มาจากพี่น้องประชาชนผู้รักความเป็นธรรมจำนวนมากเข้าทำหน้าที่พิทักษ์รักษาความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมชุมนุมอย่างกล้าหาญ ในช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่รัฐส่วนใหญ่ยังคงเพิกเฉยไม่ยอมให้ความคุ้มครองในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่มาใช้สิทธิของตนเองในการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด



แม้ในคืนวันพุธที่ 28 และคืนวันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม 2551 จะได้เกิดพายุฝนกระหน่ำอย่างรุนแรงและหนักหน่วง แต่พี่น้องประชาชนผู้รักชาติก็ได้ยืนหยัดเข้าร่วมชุมนุมอย่างไม่ท้อถอย เหตุการณ์ดังกล่าวย่อมเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าพี่น้องประชาชนทั้งหลายมีความมุ่งมั่นในการทำลายล้างระบอบทักษิณด้วยอุดมการณ์อันแน่วแน่อย่างแท้จริง พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงขอประกาศอย่างเป็นทางการเพื่อบันทึกเป็นประวัติศาสตร์เอาไว้ว่า ค่ำคืนนี้ คืนวันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม 2551 ได้เกิดปรากฏการณ์ที่มีประชาชนมาชุมนุมร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ณ สะพานมัฆวานรังสรรค์ และถนนราชดำเนินนอก เป็นจำนวนนับแสนคน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงมีมติให้ประกาศผลสำเร็จในการชุมนุมตลอด 5 วัน 5 คืนที่ผ่านมา และขอกราบขอบพระคุณอย่างสูงต่อจิตใจที่ยิ่งใหญ่ของพี่น้องประชาชนที่เข้าร่วมการต่อสู้ ร่วมกันสร้างภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ทางประวัติศาสตร์ดังกล่าวข้างต้น



บัดนี้ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้มีมติเป็นเอกฉันท์เพื่อขอฉันทานุมัติจากพี่น้องประชาชนเรือนแสน ที่เข้าร่วมการชุมนุมใหญ่ในค่ำคืนนี้ ร่วมกันกำหนดเป้าหมายในการโค่นล้มระบอบทักษิณและขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดอันธพาลให้สิ้นซาก ด้วยเหตุผลดังนี้



1.รัฐบาลภายใต้การนำของ นายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งมีพรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำสำคัญ เป็นพรรคการเมืองหุ่นเชิดของพรรคไทยรักไทยภายใต้การชี้นำและบงการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวกตลอดเวลา โดยตุลาการรัฐธรรมนูญได้เคยมีคำวินิจฉัยเอาไว้แล้วตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2550 ว่า พรรคไทยรักไทยเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนสมควรจะต้องร่วมมือกันต่อต้านในทุกวิถีทาง

2.รัฐบาลหุ่นเชิดภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวช ยังคงสานต่อพฤติกรรมทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบต่อจากรัฐบาลในระบอบทักษิณ เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับพวกพ้องของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจในภาวะข้าวยากหมากแพงอยู่ในขณะนี้ ด้วยการสมยอมให้กลุ่มธุรกิจผูกขาดน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติสามารถกอบโกยผลกำไรจำนวนมหาศาลด้วยวิธีการฉ้อฉลผู้บริโภคทุกรูปแบบ หลังจากที่รัฐบาลทักษิณได้แปรรูป บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และขายหุ้นส่วนหนึ่งในราคาถูกให้กับพวกพ้องของตัวเองไปแล้ว รวมทั้งการขึ้นราคาน้ำตาลด้วยวิธีการทุจริตอย่างอำมหิต โดยไม่แยแสต่อความทุกข์ยากของประชาชน เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับโรงงานน้ำตาลและนักการเมือง ตลอดจนบริหารให้ราคาข้าวสารของพ่อค้าส่งออกและโรงสีข้าวกำไรเฉพาะกลุ่ม จากความฉ้อฉลดังกล่าวเป็นผลทำให้ผู้ใช้แรงงาน กลุ่มชาวประมง กลุ่มผู้ประกอบการรถร่วมบริการขนส่งมวลชนกรุงเทพ ผู้ประกอบการรายย่อย ผู้บริโภค และประชาชนทั่วไปเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส

3.รัฐบาลบริหารล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการแก้ไขปัญหาความยากจน ปล่อยให้มีการกดราคาพืชผลของเกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา อย่างไม่เป็นธรรม จนเกิดการชุมนุมประท้วงไปทั่วประเทศ และกดค่าแรงงานขั้นต่ำที่ไม่สอดคล้องกับภาวะข้าวยากหมากแพงในปัจจุบัน

4.มีพฤติกรรมขัดขวางการใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยา แทรกแซงการทำงานขององค์การเภสัชกรรม เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทยา ทำร้ายผู้ป่วยในประเทศไทยอย่างไร้มนุษยธรรม

5.แทรกแซงและตัดตอนกระบวนการยุติธรรม ด้วยการโยกย้ายอธิบดีและข้าราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษและข้าราชการตำรวจจำนวนมาก เพื่อขัดขวางมิให้คดีความของตัวเองและพวกพ้องเข้าสู่การพิจารณาคดีในชั้นศาล ในขณะเดียวกัน ก็ได้ใช้กลไกอำนาจสืบสวนสอบสวนทางราชการที่เป็นพวกพ้องของตัวเอง คุกคาม กลั่นแกล้ง และกดดันองค์กรตรวจสอบอิสระตามรัฐธรรมนูญเพื่อบั่นทอนกระบวนการยุติธรรม

6.แทรกแซงการทำงานของสื่อสารมวลชน และให้พวกพ้องของตัวเองที่สนับสนุนรัฐบาลเข้าจัดรายการในสื่อของรัฐอย่างฉ้อฉล เพื่อยัดเยียดนำเสนอข้อมูลข่าวสารของตัวเองฝ่ายเดียวให้กับประชาชน ตลอดจนใช้อันธพาล ข่มขู่ คุกคาม การทำงานของสื่อสารมวลชน

7.ล้มเหลวในการบริหารจัดการเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ ล้มเหลวในการแก้ไขความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ประเทศไทยเสียดินแดนบริเวณรอบเขาพระวิหารและน่านน้ำบริเวณอ่าวไทยตกเป็นของชาติอื่น เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับนักการเมืองในระบอบทักษิณ

8.ปล่อยปละละเลยให้คนที่มีมลทินและกระทำผิดกฎหมาย ไร้ซึ่งจริยธรรมให้มาบริหารบ้านเมืองทั้งในฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ประพฤติปฏิบัติตนเป็นอันธพาล ยั่วยุทำให้ประชาชนเกิดความแตกแยก ปกป้องผู้กระทำความผิดทั้งในทางกฎหมายและในทางจริยธรรมมาปกครองบริหารบ้านเมือง หาได้ปฏิบัติตามที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณตนเองไม่

9.รัฐบาลและตำรวจรู้เห็นเป็นใจอยู่เบื้องหลังกระบวนการจัดกลุ่มคนอันธพาลเพื่อก่อความวุ่นวาย ยั่วยุ ข่มขู่ คุกคาม และทำร้ายร่างกายประชาชนที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาชุมนุมอย่างโหดเหี้ยม

10.เครือข่ายระบอบทักษิณได้อยู่เบื้องหลังขบวนการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีเจตนาปล่อยให้คนที่มีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เข้าร่วมบริหารบ้านเมืองมาเป็นเวลานาน ใช้วิธีตัดตอนนักการเมืองบางคนเมื่อถูกประชาชนจับได้ไล่ทัน เพียงเพื่อปกป้องมิให้สาวถึงต้นตอผู้นำความคิดและขบวนการบ่อนทำลายการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

11.รัฐบาลหุ่นเชิดได้สมคบกับผู้นำแห่งระบอบทักษิณร่วมมือกับนายทุนต่างชาติ เข้ายึดครองทรัพยากรและผลประโยชน์ของประเทศชาติและสิทธิสัมปทานต่างๆ ในอนาคต จนอาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชาติอย่างมีเงื่อนงำ เช่น กรณีการเปิดโอกาสให้ชาวตะวันออกกลางเข้ามาศึกษาและลงทุนผูกขาดในการทำการขนส่งทางบกเชื่อมต่อระหว่างบริเวณจากชายฝั่งทะเลตะวันออกไปยังชายฝั่งทะเลตะวันตก หรือที่เรียกว่า แลนด์บริดจ์ ตลอดจนการเปิดช่องทางให้ทุนขนาดใหญ่จากประเทศตะวันออกกลางให้เข้ามาทำนาซึ่งเป็นอาชีพสงวนของคนไทยมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ตลอดจนทำธุรกิจข้าวแบบครบวงจรเพื่อครอบงำและเอาเปรียบชาวนาผู้ยากไร้ให้ไม่มีวันได้ลืมตาอ้าปากอีกต่อไป

12.ใช้อำนาจเผด็จการทางรัฐสภา มุ่งแต่จะดำเนินการล้มล้างรัฐธรรมนูญที่มาจากประชามติของคนส่วนใหญ่ในประเทศ จนถูกจับได้เป็นหลักฐานจากร่างรัฐธรรมนูญแล้วว่า มีเจตนาที่จะทำไปเพื่อลบล้างความผิดของตัวเองและพวกพ้อง อันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ แสดงให้เห็นถึงการดำเนินการในทุกวิถีทางเพื่อตัดตอนอำนาจตุลาการ ทำลายหลักคุณธรรม หลักจริยธรรม และหลักนิติธรรมของชาติ ต่อมาเมื่อประชาชนจับได้ไล่ทันแล้ว นักการเมืองในระบอบทักษิณก็ได้ใช้เล่ห์เพทุบายด้วยการให้สมาชิกรัฐสภาถอนรายชื่อออกจากการล้มล้างรัฐธรรมนูญชั่วคราวเพื่อลดกระแสความไม่พอใจของประชาชน โดยมุ่งหวังที่จะทำลายสงครามครั้งสุดท้ายของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หลอกลวงให้ประชาชนตกหลุมพรางหลงประเด็นและยุติการโค่นล้มระบอบทักษิณในที่สุด แต่ทว่าเนื้อหาของการเตรียมร่างล้มล้างรัฐธรรมนูญนั้น ได้สะท้อนให้เห็นถึงเจตนาที่แท้จริงซึ่งเป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างชัดเจนแล้ว จนไม่สามารถรับประกันการใช้เล่ห์เพทุบายในวันข้างหน้าเพื่อทำให้ระบอบทักษิณกลับฟื้นคืนมาได้



พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และองค์กรเครือข่ายจึงมีบทสรุปร่วมกันว่า ปัญหาของแผ่นดินยังคงดำรงอยู่ต่อไปทั้ง 12 ประการ โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพลพรรคผู้ใกล้ชิดบงการอยู่เบื้องหลังนายสมัคร สุนทรเวชและพรรคพลังประชาชนซึ่งมีพฤติกรรมเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าเป็นหุ่นเชิดของระบอบทักษิณอย่างแท้จริง ระบอบทักษิณได้ใช้พรรคการเมืองหุ่นเชิด นักการเมืองหุ่นเชิด เข้าสู่อำนาจรัฐบาลทุนนิยมสามานย์และเผด็จการรัฐสภาอีกครั้งหนึ่ง ขยายอำนาจทุนเพื่อดำรงการสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองและพวกพ้อง ใช้อำนาจเงินเข้ายึดอำนาจทหารและตำรวจ ตลอดจนแทรกแซงอำนาจในกระบวนการยุติธรรมอย่างไร้จริยธรรม


ดังนั้น ภารกิจการโค่นล้มระบอบทักษิณจึงยังไม่เสร็จสิ้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงขอฉันทามติจากพี่น้องประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก ยกระดับของการต่อสู้ไปสู่การขับไล่รัฐบาลทุนนิยมสามานย์ ขับไล่เผด็จการรัฐสภา ตลอดจนล้มล้างระบอบทักษิณ ณ บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงที่สุด หากพี่น้องเห็นพ้องต้องกันว่าการแก้วิกฤติการณ์ในครั้งนี้จะบรรลุเป้าหมายอย่างสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อจะต้องโค่นล้มระบอบทักษิณและขับไล่รัฐบาลอันธพาลหุ่นเชิดแล้ว



ขอเชิญชวนพี่น้องมวลมหาประชาชน ณ ที่แห่งนี้ รวมถึงพี่น้องประชาชนชาวไทยทั่วประเทศไทยและทั่วโลกได้โปรดลุกขึ้นยืนแสดงฉันทมติเห็นชอบเคลื่อนไหวตามรัฐธรรมนูญเพื่อโค่นล้มรัฐบาลและขับไล่รัฐบาลอันธพาลอย่างพร้อมเพรียงกัน



ด้วยจิตคารวะ

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

30 พฤษภาคม 2551”