วันนี้ วันที่ 23 พ.ย.2551 ซึ่งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้นัดรวมพลที่ทำเนียบรัฐบาลครั้งใหญ่ เพื่อต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการและทรรราชย์ ของนายสมชาย วงศ์วัสดิ์ โดยกำหนดว่าเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายแบบม้วนเดียวจบ หากแพ้ก็ยกประเทศไทยให้เหล่าทรราชย์เลย
ผมได้ติดตามความคืบหน้าการชุมนุมในเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ เลยไปเห็นข่าวที่ ท่านเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติและกวีซีไรต์ ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ในทำเนียบ เมื่อเวลา 19.25 น.ของวันที่ 22 พ.ย.2551 ซึ่งเหมือนกับเป็นปลุกขวัญและให้กำลังใจแก่ผู้ชุมนุม ซึ่งน่าสนใจมาก ผมจึงนำมาเขียนไว้ใน Blog นี้เพื่อบันทึกไว้เป็นความทรงจำ
ท่านเนาวรัตน์ฯ ได้ร่วมบรรเลงเพลงขลุ่ยพร้อมขับขานบทกวีสลับกับการปราศรัย และเผยว่าเป็นการตัดสินใจเรื่องความถูกผิดที่ชัดเจนที่สุด และตลอดชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยเลือกข้างผิด แต่ประหลาดใจกับสถานการณ์ มีหมาเห่าขโมยที่เข้าบ้าน เจ้าของบ้านกลับมาเกลียดหมา ด่าหมา และยังระบุถึงชัยชนะของพันธมิตรฯ อยู่ที่การสู้เพื่อคนทั้งประเทศ ขณะที่อีกฝ่ายสู้เพื่อคนๆ เดียว
ท่านเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เริ่มสะกดผู้ชุมนุมด้วยการเป่าขลุ่ยเพลง "คนทำทาง" โดยมีวงดนตรีร่วมบรรเลง สลับกับการอ่านบทกวี เมื่อจบเพลง ท่านได้ปราศรัยว่า
"นี่เป็นการตัดสินใจที่ตนคิดว่าอะไรผิดอะไรถูกชัดเจนที่สุด สถานการณ์วันนี้แปลกประหลาดมากๆ มีบ้านหลังหนึ่ง มีขโมยกำลังเลาะรอบบ้าน บางตัวเข้ามาในบ้านแล้ว หมาเห่า หมาบ้านเราเห่า เจ้าของบ้านกลับมารำคาญเสียงเห่า เจ้าของบ้านกลับมาด่าหมา แทนที่จะด่าขโมย จนกระทั่งหมาโดนตีโดนเตะ เจ้าของบ้านกลับมาเกลียดหมา มองไม่เห็นขโมย มันเกิดอะไรขึ้น สถานการณ์อย่างนี้
ขโมยนั้น มันคุกคามบ้านเรา ตั้งแต่มีโจรอยู่ข้างนอกบ้าน และมีหัวขโมยแก๊งขโมยอยู่ในบ้าน แล้วก็ยังมีนักตีชิงวิ่งราวทางการเมือง และก็มีนักย่องเบาทางการเมืองอีก เราเป็นเจ้าของบ้านหรือเปล่า แล้วก็มาเกลียดหมา หมามันอาจจะขี้เรื้อน เยี่ยวรดรุ่มร่ามไปบ้าง แต่หมามันเห่าขโมย ครับ และหมาพวกนี้ มันจะตายหรือมันจะอยู่ก็ไม่รู้ แต่มันจะได้ปลอกคอหรือ มันไม่ได้หวังปลอกคอ มันก็ยังเป็นหมาอยู่
ผมเชื่อในพลังของความถูกต้องและความดี วันนี้ ผมจึงออกมา”
หลังจากนั้นได้เป่าขลุ่ยเพลง "คนดี" แทรกด้วยการอ่านบทกวี "เป็นมนุษย์" เมื่อเพลงจบ "เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์" ได้ปราศรัยว่า ชัยชนะไม่ได้ชี้ขาดในสนามรบ ชัยชนะไม่ได้ชี้ขาดในสนามรบ ชัยชนะชี้ขาดด้วยความเป็นธรรมและความถูกต้อง ผมเขียนหนังสือ เล่นดนตรี ตั้งแต่ 14 ตุลาฯ มาจนถึงวันนี้ ผมไม่เคยเลือกข้างผิดเลยครับ ไม่มีการตื่นตัวทางการเมืองครั้งไหนจะยิ่งใหญ่เท่าครั้งนี้ มันเป็นปรากฏการณ์การต่อสู้ระหว่าง 2 กลุ่ม คือ 1.ผู้ตื่นตัวทางการเมือง 2. ผู้หลับใหลทางการเมือง ผู้หลับใหลทางการเมืองนั่นแหละเป็นเหยื่อทางการเมือง ผมจึงบอกว่าไม่ประหลาดใจเลยที่ขโมย ผู้ตีชิงวิ่งราว นักย่องเบาทางการเมือง พวกนี้เป็นเหยื่อทางการเมืองทั้งนั้น
หลังจากนั้น"เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์"ได้เป่าขลุ่ยและร่วมร้องเพลง "นางนวล" เพื่อเป็นการให้กำลังใจผู้ชุมนุม โดยก่อนเริ่มเพลงได้บอกว่า บ้านเมืองของเรา มาถึงจุดที่ต้องจำแนกให้ชัดเจน ตนเคยเขียนบทกลอนบทหนึ่งว่า
"ปัญญาชนคนชั้นกลาง ยังใบ้เบื้อ คนรากหญ้าเป็นเหยื่อทุกหย่อมหญ้า เผด็จการ เบ็ดเสร็จ เผด็จสภา ปล้นประชาธิปไตยไปทุกครั้ง"
หลังจากนั้น"เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์"ได้กล่าวปราศรัยอีกครั้งว่า "มีคำถามง่ายๆ ว่า เราสู้นี้เพื่อใคร สู้เพื่อพวกแกนนำพันธมิตรฯ หรือ เปล่าเลย ถ้าสู้เพื่อพวกแกนนำพันธมิตรฯ ผมไม่สู้ครับ เราสู้เพื่อใคร ถามตัวเองให้ดี นั่นแหละคือชัยชนะ ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งเขาสู้เพื่อใคร เขาสู้เพื่อคนๆ เดียว ใช่ไหมครับ ขณะที่เราสู้เพื่อคนเป็นแสนเป็นล้าน คนของประเทศนี้ ชัยชนะอยู่ตรงนี้ เราไม่ได้สู้เพื่อตัวเอง เหมือนที่บอกว่า เราเป็นหมาเห่าขโมย เราไม่ได้สู้เพื่อปลอกคอหมา ใช่ไหมครับ เรื่องราวนี้จบไปแล้ว เราก็ยังเป็นหมา ที่คอยจะเฝ้ายาม คอยจะเห่าขโมยอยู่นั่นแหละ"
ช่วงสุดท้าย "เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์"ได้เป่าขลุ่ยและร้องเพลง "ส่งใจสู่ใจ" โดยก่อนเริ่มเพลงได้บอกว่า "พวกเราไม่เคยเปลี่ยนแปลง ไม่เคยเปลี่ยนสีแปรธาตุ" และเมื่อเพลงจบแล้ว ได้บอกว่าเมื่อมีโอกาสจะมาให้กำลังใจอีกครั้ง และเอาใจช่วยตลอดเวลา
เป็นมนุษย์
ก่อนจะเป็นอะไรในโลกนี้
ทั้งเลวทรามต่ำดีถึงที่สุด
ก่อนจะสวมหัวโขนละครชุด
คุณต้องเป็นมนุษย์ก่อนอื่นใด
คุณจะต้องรู้จักการเป็นมนุษย์
ไม่ใช่ชุดเครื่องแบบที่สวมใส่
ไม่ใช่ยศตำแหน่งแกร่งฉไกร
หากแต่เป็นหัวใจของคุณเอง
ใจที่มีมโนธรรมสำนึก
ใจที่รับรู้สึกตรึกตรงเผง
ใจที่ไม่ประมาทไม่ขลาดเกรง
ใจที่ไม่วังเวงการเป็นคน
เมื่อนั้นคุณจะเป็นอะไรก็ได้
เป็นผู้น้อยผู้ใหญ่ได้ทุกหน
มโนธรรมสำนึกรู้สึกตน
ต้องตั้งตนให้เป็น คือ เป็นมนุษย์!
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ พฤ ๑๓/๑๑/๕๑
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ (สืบค้นเมื่อ 23 พ.ย.2551)
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000138518