เมื่อวานตอนเย็น (17 ก.ค.2558) ขณะขับรถกลับบ้าน ผมเปิดวิทยุฟังคลื่น FM 101.00 Mhz ไม่ทราบชื่อรายการอะไร มีอาจารย์ท่านหนึ่งให้สัมภาษณ์ในรายการว่า "วันนี้ วิธีคิดของคนบนโลกนี้เปลี่ยนไป เพราะมีเสรีภาพทางการคิด หรือที่เรียกว่าคิดนอกกรอบ สภาพสังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วตามวิธีคิดใหม่ๆ ดังนั้น หากประเทศไทยและคนไทยปรับตัวไม่ทัน และยังมีวิธีคิดแบบเดิมๆ อาจจะเกิดความเสียหายได้"
หลังจากที่คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ได้เข้ามาบริหารบ้านเมืองเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2557 โดยเน้นย้ำ Road map ที่ตนเองร่างขึ้นโดยมีแม่น้ำ 5 สายและกองทัพ เป็นเครื่องมือในการปฏิรูปประเทศไทย แต่ดูเหมือนแม่น้ำทั้ง 5 สาย ดูจะกลายเป็นน้ำวน ไหลรวมกันเป็นแม่น้ำใหญ่ไม่ได้สักที จมปรักอยู่แต่ในเรื่องเดิมๆ เก่าๆ ให้ความสำคัญแต่เรื่องการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่คาดหวังว่าจะเป็นคัมภีร์นำทางให้ประเทศไทยเดินทางไปสู่ความศิวิไลซ์ จนลืมที่จะแก้ปัญหาสำคัญด้านอื่นๆ ที่ควรจะเร่งปฏิรูปอีกมากมาย ซึ่งปัญหาบางอย่างแทบไม่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเลย
ผมว่านี่แหละครับคือ วิธีคิดแบบเดิมๆ ที่อาจารย์ท่านนั้นกล่าวเอาไว้ คนรุ่นนี้ยังไม่ยอมเปลี่ยนวิธีคิด ประเทศไทยจึงเดินหน้าไปไหนไม่ได้สักที ย่ำเท้าอยู่ที่เดิมมานานกว่าแปดสิบปีที่เรียกว่าประชาธิปไตย วนเวียนอยู่กับการยึดอำนาจ การปฏิวัติ การรัฐประหาร การฉีกรัฐธรรมนูญแล้วร่างใหม่ เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า จนประเทศไทยบอบช้ำ กลุ่มการเมือง กลุ่มการทหาร ต่างผลัดกันขึ้นชื่นชม เสวยอำนาจ แต่ไม่เคยเห็นจะแก้ไขปัญหาประเทศชาติได้อย่างยั่งยืนสักคณะฯ
ประเทศไทยก็ยังประสบกับปัญหาเดิมๆ การทุจริตคอรัปชั่นในเกือบทุกวงการ น้ำก็ยังท่วม ภัยก็ยังแล้ง ฝนก็ไม่ยอมตก น้ำไม่มีในเขื่อน ชาวนาต้องหยุดทำนา ประชาชนหันมาแย่งน้ำเพื่อกินเพื่อใช้ ราษฎรบุกรุกป่าสงวน พืชผลการเกษตรราคาตกต่ำ ข้าวยากหมากแพง น้ำมันขึ้นราคา ค่าไฟ้ฟาก็ขึ้น ประชาชนจมปรักอยู่กับการแทงหวย การปฏิรูปการศึกษา(ที่ไม่มีวันเสร็จ) ครูขาดแคลน การประมงก็เถื่อน การบินก็ไม่ได้มาตรฐาน ต้องกู้เงินต่างชาติมาใช้จ่ายรายปี ชวนแต่ชาวต่างชาติมาลงทุน ไม่เคยส่งเสริมให้คนไทยลงทุน สุรุ่ยสุรายด้วยนโยบายประชานิยม ทั้งรถยนต์ คอมพิวเตอร์ เครื่องเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์ อาวุธยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยีก็ต้องซื้อเขามาใช้ ไม่เคยผลิตได้เอง วัฒนธรรมของชาติเริ่มถูกกลืน เด็กๆ ไทยจะกลายเป็นเด็กญี่ปุ่นเกาหลีไปหมดแล้ว (ฯลฯ)
ที่ประเทศไทยเป็นเช่นนี้ ล้วนเกิดจากฝีมือการบริหารบ้านเมืองของคนรุ่น Baby Boomer ในประเทศไทยทั้งสิ้น ซึ่งแสดงให้เห็นแล้วว่า ประเทศไทยไม่ได้เดินหน้าไปไหนเลย ย่ำเท้าอยู่กับที่ แก้ปัญหาไปวันๆ ประเทศไทยหากไม่ได้รับการเยียวยาโดยเร็วแล้ว อาจจะทรุดหนัก และถึงตายไปในที่สุด
Generation : กลุ่ม Baby Boomer คือใคร
นักประชากรศาสตร์ชาวอเมริกัน ได้แบ่งกลุ่มประชากรรุ่นต่างๆ ออกเป็น 4 กลุ่ม โดยใช้สัญลักษณ์ที่โดดเด่นในประสบการณ์ของแต่ละช่วงเวลา โดยเริ่มนับจากหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา คือ
หากคนกลุ่มนี้ฯ ไม่เก่ง ประเทศชาติก็จะเดินย้ำอยู่กับที่ ไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร
ดังเช่น ประเทศไทย เมียนมาร์ เวียดนาม กัมพูชา และลาว เป็นต้น
ปลดระวาง กลุ่ม ฺBaby Boomer ผลักดันกลุ่ม Generation X ขึ้นมาบริหารแทน
ที่มาของภาพ : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1372060771 |
หลังจากที่คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ได้เข้ามาบริหารบ้านเมืองเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2557 โดยเน้นย้ำ Road map ที่ตนเองร่างขึ้นโดยมีแม่น้ำ 5 สายและกองทัพ เป็นเครื่องมือในการปฏิรูปประเทศไทย แต่ดูเหมือนแม่น้ำทั้ง 5 สาย ดูจะกลายเป็นน้ำวน ไหลรวมกันเป็นแม่น้ำใหญ่ไม่ได้สักที จมปรักอยู่แต่ในเรื่องเดิมๆ เก่าๆ ให้ความสำคัญแต่เรื่องการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่คาดหวังว่าจะเป็นคัมภีร์นำทางให้ประเทศไทยเดินทางไปสู่ความศิวิไลซ์ จนลืมที่จะแก้ปัญหาสำคัญด้านอื่นๆ ที่ควรจะเร่งปฏิรูปอีกมากมาย ซึ่งปัญหาบางอย่างแทบไม่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเลย
ผมว่านี่แหละครับคือ วิธีคิดแบบเดิมๆ ที่อาจารย์ท่านนั้นกล่าวเอาไว้ คนรุ่นนี้ยังไม่ยอมเปลี่ยนวิธีคิด ประเทศไทยจึงเดินหน้าไปไหนไม่ได้สักที ย่ำเท้าอยู่ที่เดิมมานานกว่าแปดสิบปีที่เรียกว่าประชาธิปไตย วนเวียนอยู่กับการยึดอำนาจ การปฏิวัติ การรัฐประหาร การฉีกรัฐธรรมนูญแล้วร่างใหม่ เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า จนประเทศไทยบอบช้ำ กลุ่มการเมือง กลุ่มการทหาร ต่างผลัดกันขึ้นชื่นชม เสวยอำนาจ แต่ไม่เคยเห็นจะแก้ไขปัญหาประเทศชาติได้อย่างยั่งยืนสักคณะฯ
ประเทศไทยก็ยังประสบกับปัญหาเดิมๆ การทุจริตคอรัปชั่นในเกือบทุกวงการ น้ำก็ยังท่วม ภัยก็ยังแล้ง ฝนก็ไม่ยอมตก น้ำไม่มีในเขื่อน ชาวนาต้องหยุดทำนา ประชาชนหันมาแย่งน้ำเพื่อกินเพื่อใช้ ราษฎรบุกรุกป่าสงวน พืชผลการเกษตรราคาตกต่ำ ข้าวยากหมากแพง น้ำมันขึ้นราคา ค่าไฟ้ฟาก็ขึ้น ประชาชนจมปรักอยู่กับการแทงหวย การปฏิรูปการศึกษา(ที่ไม่มีวันเสร็จ) ครูขาดแคลน การประมงก็เถื่อน การบินก็ไม่ได้มาตรฐาน ต้องกู้เงินต่างชาติมาใช้จ่ายรายปี ชวนแต่ชาวต่างชาติมาลงทุน ไม่เคยส่งเสริมให้คนไทยลงทุน สุรุ่ยสุรายด้วยนโยบายประชานิยม ทั้งรถยนต์ คอมพิวเตอร์ เครื่องเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์ อาวุธยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยีก็ต้องซื้อเขามาใช้ ไม่เคยผลิตได้เอง วัฒนธรรมของชาติเริ่มถูกกลืน เด็กๆ ไทยจะกลายเป็นเด็กญี่ปุ่นเกาหลีไปหมดแล้ว (ฯลฯ)
ที่ประเทศไทยเป็นเช่นนี้ ล้วนเกิดจากฝีมือการบริหารบ้านเมืองของคนรุ่น Baby Boomer ในประเทศไทยทั้งสิ้น ซึ่งแสดงให้เห็นแล้วว่า ประเทศไทยไม่ได้เดินหน้าไปไหนเลย ย่ำเท้าอยู่กับที่ แก้ปัญหาไปวันๆ ประเทศไทยหากไม่ได้รับการเยียวยาโดยเร็วแล้ว อาจจะทรุดหนัก และถึงตายไปในที่สุด
Generation : กลุ่ม Baby Boomer คือใคร
นักประชากรศาสตร์ชาวอเมริกัน ได้แบ่งกลุ่มประชากรรุ่นต่างๆ ออกเป็น 4 กลุ่ม โดยใช้สัญลักษณ์ที่โดดเด่นในประสบการณ์ของแต่ละช่วงเวลา โดยเริ่มนับจากหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา คือ
- Baby Boomer คือกลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ.2486-2507 ปัจจุบันคือพวกที่มีอายุประมาณ 51-72 ปี เป็นคนยุคที่เกิดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลง หลังจากที่มีผู้เสียชีวิตระหว่างสงครามไปเป็นจำนวนมาก
- Generation X คือกลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ.2508-2524 ปัจจุบันคือพวกที่มีอายุประมาณ 34-50 ปี เป็นกลุ่มคนยุคที่มหาอำนาจของโลกคือ สหรัฐอเมริกา และสหภาพโซเวียต กำลังขับเคี่ยวกัน หรือที่เรียกว่ายุคสงครามเย็น
- Generation Y คือกลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ.2525-2543 ปัจจุบันคือพวกที่มีอายุประมาณ 15-33 ปี คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นลูกของกลุ่ม Baby Boomer เป็นรุ่นที่มีการเติบโตทางเทคโนโลยี และมีการใช้ Personal Computer กันอย่างแพร่หลาย
- Generation Z คือกลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ.2544-ปัจจุบัน คือพวกที่มีอายุประมาณ 1-14 ปี เป็นกลุ่มเด็กรุ่นใหม่ มีอัตราการเกิดลดลง ส่วนใหญ่เป็นลูกของกลุ่ม Generation X
หาก Baby Boomer เก่ง ประเทศก็พัฒนา
หากนับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ถือว่าแต่ละประเทศเริ่มต้นใหม่เหมือนกันหมด กลุ่ม Baby Boomer คือ กลุ่มที่เป็นผู้บริหารประเทศในปัจจุบัน รวมทั้งประเทศไทยด้วย
หากคนกลุ่มนี้ฯ เก่ง ก็จะนำพาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า
ดังเช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย สิงคโปร์ เป็นต้น
ดังเช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย สิงคโปร์ เป็นต้น
หากคนกลุ่มนี้ฯ ไม่เก่ง ประเทศชาติก็จะเดินย้ำอยู่กับที่ ไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร
ดังเช่น ประเทศไทย เมียนมาร์ เวียดนาม กัมพูชา และลาว เป็นต้น
ที่มาของภาพ http://www.franchiseperformancegroup.com/lead-generation-mistake-1/ |
ปลดระวาง กลุ่ม ฺBaby Boomer ผลักดันกลุ่ม Generation X ขึ้นมาบริหารแทน
การพัฒนาของประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และมาเลเซีย แตกต่างกับประเทศไทยโดยสิ้นเชิง จึงพอเป็นบทพิสูจน์ได้ว่า กลุ่มผู้บริหารประเทศไทยในปัจจุบันและที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นคนกลุ่ม Baby Boomer ไม่เก่งและมีฝีมือพอที่จะนำพาประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้าได้ หากยังปล่อยหรือพยายามผลักดันให้มีการต่ออายุคนกลุ่มนี้ ให้มาบริหารบ้านเมืองอีก ประเทศไทยก็คงจะไม่ไปรอด
ดังนั้นจึงเห็นสมควรที่จะสนับสนุนและผลักดันกลุ่มคนไทยที่ เป็นกลุ่ม Generation X คือพวกที่มีอายุประมาณ 34-50 ปี ขึ้นมาบริหารบ้านเมืองแทน เพราะกลุ่มคนพวกนี้จะมีวิธีการคิดใหม่ หลุดออกจากกรอบและความเชื่อเดิมๆ ไม่เหมือนกลุ่ม Baby Boomer ที่ยังคิดว่าตัวเองถูกเสมอ ยึดติดแต่กรอบความคิดเก่าๆ
และผมยังมีความเชื่อมั่นว่า กลุ่ม Generation X จะบริหารบ้านเมืองได้ดี นำพาไปประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้ามากกว่ากลุ่ม Baby Boomer เพราะเขาจะต้องบริหารบ้านเมืองเพื่อกลุ่ม Generation Z ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกของพวกเขานั่นเอง
ที่มาของภาพ http://futureaa.com.au/generation-x-gets-busy-self-managed-superannuation-smsf/ |
**************************************
จุฑาคเชน : 18 ก.ค.2558